[เชียงใหม่] [SR] เทนโกกุ-สันกำแพง จัดเต็มความอร่อยแบบญี่ปุ่นแท้ในบรรยากาศแสนสบาย

26 พฤศจิกายน 2558


เทนโกกุ ชื่อนี้การันตีความอร่อยแบบญี่ปุ่นแท้
จินตนาการภาพร้านอาหารญี่ปุ่นสุดหรูเป็นเลิศทั้งด้านอาหารและการบริการ เปิดตัวท่ามกลางบรรยากาศโอบล้อมด้วยขุนเขา ด้านหน้าเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ บริเวณโดยรอบเป็นสนามหญ้าโล่งกว้าง มีบาร์สุดเท่ให้บริการ มีสนามกอล์ฟขนาดหกหลุม สวนผักแบบธรรมชาติปลอดสารเคมี 100% ร้านแบบนี้คงเป็นร้านที่เราจะพาเพื่อน พาผู้หลักผู้ใหญ่ พาลูกๆคนในครอบครัวมาใช้บริการอย่างแน่นอน และร้านที่ว่านั้นคือ "เทนโกกุ-สันกำแพง"

เทนโกกุ ชื่อนี้คออาหารญี่ปุ่นเมืองเชียงใหม่ทุกคนต้องรู้จักเป็นอย่างดี ร้านเปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2009 สาขาแรกอยู่ตรงข้ามโรงแรมดาราเทวีเชียงใหม่ ต่อมาได้ขยายไปเปิดสาขาที่สองบริเวณถนนนิมมานเหมินท์ซอย5 ย่านสุดฮิปของคนเชียงใหม่ และมาถึงปี 2015 ได้เปิดตัวสาขาที่สามในทำเลที่แตกต่างออกไปคือที่อำเภอสันกำแพง บริเวณตำบลแม่ออนใต้ ใช้เวลาในการเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 25-30 นาที

เนื่องจากทำเลที่ตั้งของร้านที่ค่อนข้างต้องใช้เวลาพอสมควร จึงขอแนะนำสำหรับคนที่ไม่ได้รีบร้อนจะไปที่ไหนต่อ ถ้าหากรีบแนะนำใช้บริการที่สาขาหนึ่งหรือสาขาสองจะสะดวกกว่า สาขาสันกำแพงนี้เหมาะไปพักผ่อนสบายๆ นั่งทานไปเรื่อยๆไม่รีบร้อน เพราะเขาให้เวลาตั้งแต่ 17.00-21.00 น. ยาวห้าชั่วโมงเต็มกันเลยทีเดียว

อาหารของเทนโกุ-สันกำแพงให้บริการแบบบุฟเฟ่ต์ราคาคนละ 900 บาท (รวมน้ำดื่มและชาเขียว) ที่จริงแล้วแบบ a la carte สั่งเป็นจานๆก็มีแต่ไม่แนะนำ เพราะราคาเฉลี่ยต่อจานค่อนข้างสูง แนะนำกินแบบบุฟเฟต์จะคุ้มค่ากว่า

พอเริ่มนั่งปุ๊บยังไม่ต้องสั่งอะไร ทางร้านจะเสิร์ฟสามจานเรียกน้ำย่อยมาให้ก่อนเลย นั่นคือ ซาชิมิ ซูชิ และซุปใสซากุระ หลังจากนั้นจึงค่อยเริ่มสั่งเมนูบุฟเฟ่ต์กว่า 30 รายการกันได้เลย ไลน์อาหารยังรวมไปถึงชุดชาบูด้วย คือมันคุ้มค่ามากเหนือบรรยายและอาหารก็อร่อยทุกอย่างเสียด้วย คืออิ่มมากจุกมากพี่พูดเลย ต้องไปลองครับ อิ่มทั้งท้อง อิ่มทั้งบรรยากาศ
จานแรกมาเสิร์ฟก่อนเลย ชุดปลาดิบคำโตพร้อมวาซาบิสด ไม่ต้องสั่งป๋าจัดให้ทุกคน

เป็นเอกลักษณ์ของเทนโกกุไปแล้ว ปลาดิบที่นี่ชิ้นใหญ่จริงๆ เต็มปากเต็มคำ มีแซลม่อน ฮามาจิ และมากูโร่

ซุปใสดอกซากุระ รสชาติไม่เคยกินที่ไหนมาก่อน

Beef Tataki เนื้อยำแบบญี่ปุ่น บอกได้คำเดียวว่ายังไงต้องโดน

Natsudenkaku มะเขือม่วงราดซอส เมนู Signature ของเทนโกกุ

พุงแซลม่อนย่าง อย่าลืมบีบมะนาวด้วยนะ สุดๆครับ

ป๋าปึกส์ - สันต์ สืบแสง เจ้าตำนานผู้ก่อตั้งร้านเทนโกกุ

บริเวณรอบๆร้านมีการตกแต่งน้อยใหญ่ทั่วไปหมด


แล้วยังมีโต๊ะพูลไว้คอยให้บริการแขกทุกท่านอีกด้วย

เทนโกกุ - สันกำแพง

ที่อยู่: แม่ออน, สันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
เวลาเปิด-ปิด: 11.00-14.00, 17.00-21.00 เปิดเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดยาวเท่านั้น
โทร. 081 885 5959 (ต้องโทรสำรองที่นั่งล่วงหน้าเท่านั้น)

แผนที่ร้านเทนโกกุ-สันกำแพง


ดูรูปทั้งหมดได้ที่นี่เลยจ้า

26 November 2558, Chiang Mai Thailand

Posted by Govit Thatarat on Monday, November 30, 2015

5 itong2go: November 2015 26 พฤศจิกายน 2558 เทนโกกุ ชื่อนี้การันตีความอร่อยแบบญี่ปุ่นแท้ จินตนาการภาพร้านอาหารญี่ปุ่นสุดหรูเป็นเลิศทั้งด้านอาหารและการบริการ เป...

[มาเก๊า] มานี่ เจอแน่ - อาหาร 8 อย่างที่ไม่พลาดเมื่อมาเยือนมาเก๊า!

ทริปมาเก๊า 18-22 ธันวาคม 2557

อาหาร 8 อย่างที่ไม่พลาดเมื่อมาเยือนมาเก๊า!
เที่ยวมาเก๊าทั้งทีแม้จะมีเวลาไม่มาก แต่เราก็ไม่พลาดที่จะลุยกินดะแบบคนมาเก๊า ไปดูว่าเขากินอะไรบ้าง อันไหนถูกปากถูกใจกะเหรี่ยงน้อยอย่างเราบ้าง เมืองที่นี่ไม่ใหญ่เลยเดินเที่ยวสะดวกดีเพราะจะได้เห็นร้านข้างทางที่ชาวบ้านเขากิน แบบนั้นแหละที่เราต้องการ

- อาหาร - 

1. Hot Pot Bowl - ลวกจิ้มด่วนๆสไตล์มาเก๊า

ที่ตั้ง: พบได้ทั่วไปตามแหล่งที่มีคนเดิน โดยเฉพาะ Senado Square, Macau
ค่าใช้จ่าย: เริ่มต้น $5 สำหรับผักและ $10 สำหรับเนื้อหรือลูกชิ้นต่างๆ

พยายามหาคำมาเรียกอาหารชนิดนี้มันหายากจริงๆ บ้างก็เรียกว่า Quick Hot Pot บ้างก็ Hot Pot Bowl เอาเป็นว่ามันคล้ายร้านสุกี้ผสมกับร้านลูกชิ้นทอดบ้านเรา ร้านพวกนี้ไม่มีโต๊ะนั่งคุณไปหน้าร้านแล้วก็เลือกของที่ต้องการใส่ตะกร้า โดยมากเป็นพวกลูกชิ้นแบบต่างๆ และก็ผักใบเขียวและพวกเห็ดชนิดต่างๆ เขาก็จะคิดราคาแล้วเอาทั้งหมดไปลวกรวมกันเหมือนลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา พอสุกแล้วก็จะใส่ถ้วยแล้วราดน้ำคล้ายน้ำแกงกะหรี่ ถ้าชอบเผ็ดก็บอกเขาราดเยอะๆ จะได้ตะเกียบหรือไม้เสียบมาล้อมวงกินกับเพื่อนๆเป็นที่สนุกสนาน
หน้าร้านคึกคักอารมณ์ประมาณลูกชิ้นทอดเชียงใหม่บ้านเรา

ลูกชิ้นต่างๆเสียบไม้ไว้รอลูกค้ามาเลือกตามใจชอบ

วิธีสั่ง - เลือกลูกชิ้นที่ต้องการใส่ตะกร้า → เลือกผัก → เลือกเส้น → แม่ค้านำไปลวก → เลือกน้ำราดที่ต้องการมีแบบเผ็ดมากเผ็ดน้อย → ลงมือหม่ำกันได้เลย

2. Braised Beef Curry Noodle Soup ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นแกงกะหรี่

ที่ตั้ง: ร้านข้างทางระหว่างทางเดินไป Ruins of St. Paul's
ค่าใช้จ่าย: ประมาณ 15-18$ ต่อถ้วย

ระหว่างเดินไปเรื่อยๆผ่านร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆนึกแปลกใจทำไมคนเต็มทุกโต๊ะเลย เออ เราก็เป็นคนชอบก๋วยเตี๋ยวอยู่แล้วขอลองสักหน่อย ว่าแล้วก็จัดเลยสั่งไม่เป็นครับ เมนูจีนล้วนอีกแล้ว ใช้วิธีชี้ของคนข้างๆเอา ได้มาหน้าตาเหมือนในรูป รสชาติประมาณข้าวซอยบ้านเรานี่แหละ แต่มันเลี่ยนกว่าเยอะเพราะไม่มีผักดองหอมแดง เส้นเป็นแบบกลมๆไม่เหมือนเส้นข้าวซอย รวมๆคือต้องลองครับส่วนจะซ้ำรอบสองหรือเปล่านี่ต้องแล้วแต่คนชอบอีกที
ร้านข้างทางแต่คนเพียบนะเธอ

หน้าตาคล้ายข้าวซอยบ้านเรายังไงยังงั้น

3. Lemon Tea and Beef Steak ร้าน Vitoria

ที่ตั้ง: ซอยใกล้กับ Senado Square, Macau
ค่าใช้จ่าย: เฉลี่ย $50 ต่อคน

ลองอาหารตามสูตรมาแล้วก็ขอลองอาหารมั่วๆบ้าง เหลือบไปเจอร้านนี้ระหว่างทางเดินกลับโรงแรม อยู่ในซอยห่างจากจตุรัสเซนาโดประมาณ 100 เมตร ดูจากสีสันแล้วน่าจะเป็นร้านฟาสต์ฟู้ดแบบมาเก๊า รอช้าอยู่ใยเข้าไปนั่งทันที เมนูที่ติดใจมาตั้งแต่เช้าก็คือ Milk Tea ตามด้วย Lemon Tea อยากจะรู้ว่าชาอื่นๆมันต่างกันมั้ย และด้วยความหิวอยากกินอะไรที่มันหนักๆดูบ้างก็เลยจัดสเต็กเนื้อกระทะร้อนมาอีกหนึ่ง เขาเสิร์ฟมาพร้อมข้าวสวยเลยดีมากรู้ใจคนไทย อาหารร้านนี้อร่อยราคาไม่แพง รอไม่นานแป๊ปเดียวก็ได้ละ กินเสร็จเดินไปจ่ายเงินที่คุณลุงผู้นั่งบัญชาการอยู่ด้านหน้าได้เลย แนะนำให้ลองครับ
Milk Tea เครื่องดื่มยอดนิยมของชาวมาเก๊า

อันนี้ชามะนาวรสชาติเข้มๆไม่เหมือนบ้านเราที่ออกหวาน

สเต็กเสิร์ฟเป็นชุดพร้อมข้าวสวย

เนื้อเน้นๆ จัดว่าเป็น Portion ที่ใหญ่กินสองคนได้เลย

4. โจ๊กหลังโรงแรม Man Va Hotel

เดินลัดเลาะผ่านตลาดสดกลับจะถึงที่พักเหลือบไปเห็นเค้าตั้งโต๊ะขายโจ๊กที่หลังบ้าน บ้านคนแถวนั้นอยู่อาศัยจริงๆเปิดขายเฉพาะช่วงเช้า ได้อารมณ์กินข้าวบ้านป้าญาติผู้ใหญ่ ใส่ถั่วต้ม หอย กุ้งแห้ง สาหร่าย ขิงซอยชิ้นใหญ่ เออแปลกดีขอลองชิมสักทีโจ๊กมาเก๊า
สีดำๆนั่นคือสาหร่าย ไม่น่าเชื่อว่าจะหอมกลิ่นหอย กลิ่นถั่วเข้ากันอย่าลงตัว ถ้วยนี้ราคาเพียง 10$


เดินไปเรื่อยๆเจออะไรน่าอร่อยแวะกินเลย

ชวนแวะฟู้ดคอร์ท


ที่ตั้ง: เดินผ่านระหว่างกลับจากวัดอาม่า
ค่าใช้จ่าย: แล้วแต่สั่ง

อยากชวนลองแวะขึ้นไปฟู๊ดคอร์ทของแต่ละย่านที่ไปเที่ยวกันดู ที่แวะขึ้นไปลองชิมเป็นช่วงเช้าร้านเปิดไม่กี่ร้าน ไปคึกคักเอาช่วงเที่ยงกับมื้อเย็น อาหารที่สั่งมาลองกินมี 2 อย่าง เราถ่ายรูปจากคนข้างๆแล้วเอาไปให้เจ้าของร้านดูว่าเอาตามรูป1ชาม ด้วยความที่มีแต่ภาษาจีนการสั่งอาหารตามที่เราอยากกินไม่ได้ดั่งใจทำให้อดพลาดไปหลายเมนู ใครไปเที่ยวหัดพูดจีนไปสักหน่อยจะช่วยได้เยอะ
ร้านนี้เปิดแต่เช้า

เส้นใหญ่สับราดน้ำซอสหวานสีน้ำตาลโรยงาคั้ว หยอดซอสพริกลงไปหน่อย กินตอนร้อนๆเหมาะเหม๋ง

บะหมี่ตีนไก่

ทางขึ้น กับบริเวณรอบๆ

- ขนม/ของหวาน -

 5. Portuguese Egg Tart ร้าน Koi Kei Bakery ถนนโคมแดง

ที่ตั้ง: Rua da Felcidade, Macau
ค่าใช้จ่าย: $9 ต่อชิ้น

Koi Kei ร้านเบเกอรี่ที่มีชื่อเสียงที่สุดของมาเก๊า ด้วยจำนวน 16 สาขาในมาเก๊า 7 สาขาในฮ่องกงและอีก 1 สาขาในสิงคโปร์ ด้วยผลิตภัณฑ์มากกว่า 300 ชนิด Koi Kei มีโรงงานผลิตขนมที่ใหญ่โตด้วยพนักงานมากกว่า 400 คน Koi Kei ได้เป็นตัวแทนของมาเก๊าในเรื่องรสชาติของฝากที่ต้องถือติดมือกลับไปฝากคนที่บ้านกันเลยทีเดียว

แน่นอนว่าต้องไม่พลาด Egg Tart ร้าน Koi Kei จัดตู้โชว์ไว้โดดเด่นด้านหน้าร้านให้สมกับเป็นขนมที่มีชื่อเสียงมีประวัติศาสตร์ยาวนานและเป็นที่นิยมของบรรดาคนที่ไปมาเก๊าผู้ต้องการจะไปชิมรสชาติสูตรต้นตำรับแบบโปรตุเกส (ในฮ่องกงมีการดัดแปลงจากสูตรดั้งเดิมไปมาก) เช่นกันเราต้องไม่พลาดไปเข้าคิวซื้อมาตามระเบียบ ราคาชิ้นละ $9 เขาใส่ถุงให้เรียบร้อยถือดูพบว่ายังอุ่นๆ ลองชิมเปลือกนอกที่เป็นถามกรอบดีคล้ายพายอบมีหลายชั้น เนื้อไข่คล้ายสังขยาบ้านเราแต่เนียนกว่า คนรักทาร์ตไข่ไม่ควรพลาด
บรรยากาศหน้าร้านสุดคึกคัก แจกของชิมฟรีกันเพียบ

ทาร์ตไข่โปรตุเกส

-เครื่องดื่ม -


6. Wine Tasting at Macau Wine Museum

ที่ตั้ง: 431 Rua de Luis Gonzaga Gomes, Macau
เปิด-ปิด: 10.00-20.00 ปิดวันอังคาร
ค่าใช้จ่าย: $15

โปรตุเกสเป็นประเทศที่มีประวัติเรื่องไวน์มายาวนานหลายยุคหลายสมัยทั้งกรีกและโรมัน โดยเริ่มจากการผลิตไวน์เพื่อส่งให้กรุงโรมในยุคอาณาจักรแห่งโรม ในยุคใหม่นั้นเริ่มจากการขายให้อังกฤษในปี 1703 จากนั้นในปี 1758 จึงเริ่มมีการผลิตไวน์เพื่อการค้าอย่างจริงจังนับแต่นั้นมา

ปกติเราชอบดื่มไวน์เคยดื่มของหลายประเทศมาแล้ว ยกเว้นของโปรตุเกสนี่แหละ วันนี้ขอจ่าย $15 เพื่อชิมดู เขามีให้เลือกสี่ตัว เป็นไวน์แดงหนึ่ง ไวน์ขาวหนึ่ง และไวน์หวานอีกสองตัว (ปกติหนึ่งคนได้สามแก้วเราไปสองคนได้หกแก้วจึงได้ชิมครบหมดทั้งสี่ขวด) เสิร์ฟมาในแก้วไวน์เล็กๆ ปริมาณไม่มากแค่พอให้ได้รู้รสชาติ รวมๆแล้วเราคิดว่าโปรตุเกสน่าจะมีชื่อเรื่องไวน์หวานเพราะทำออกมาได้ดีที่สุดในสามอย่างนี้ ใครผ่านไปแวะไปลองชิมได้ ส่วนค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ฟรีจ้า
ค่าชิมไวน์ 10$ ได้หนึ่งแก้ว 15$ ได้สามแก้ว

มาแล้วไม่พลาดต้องลองชิมไวน์โปรตุเกสซะหน่อย ไวน์หวานอร่อย

ซ้ายบน-ด้านหน้าตึกทางเข้า, ซ้ายล่าง-ทางเข้า Museum, ขวา-การจัดแสดงการขนส่งไวน์แบบโบราณ

7. DJ Kitchen - Milk Tea

ที่ตั้ง: Rua da Felcidade, Macau
ค่าใช้จ่าย: ขวดละ 19$

Milk Tea เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากทั้งในมาเก๊าและฮ่องกง มีส่วนผสมจากชาดำและนม นิยมรับประทานเป็นส่วนหนึ่งของอาหารเที่ยง เมื่อได้รู้ว่าที่นี่เขาฮิตชานมกันอย่างนี้ เราต้องลองซะแล้ว ร้าน DJ Kitchen นี้บางคนถึงกับชมว่าเป็น Milk Tea ที่ดีที่สุดในมาเก๊า เดินไปซื้อเขาจะถามว่ากินแบบขวดหรือแบบใส่แก้ว เราเลือกใส่แก้วเพราะจะเดินไปกินไป รสชาติมันเป็นชาเข้มๆกลิ้นชายังแรงอยู่มาก ผสมกับนมรสชาติบอกไม่ถูกเหมือนกัน ไม่เหมือนชาเย็นใส่นมบ้านเรา มันเข้มข้นได้รสชามากกว่าเยอะ ต้องลองครับ
บรรยากาศหน้าร้าน DJ Kitchen - Milk Tea

ซื้อแบบ Take Home ใส่แก้วกลับบ้านได้เลย

8. Chinese Beer @ Macau

ที่ตั้ง: ร้านสะดวกซื้อทั่ว Macau
ค่าใช้จ่าย: 5-10$ ต่อกระป๋อง

ตามธรรมเนียมการเดินทางของเรา ไปที่ไหนต้องได้ชิมเบียร์ของพื้นที่นั้นๆ ครั้งนี้ก็เช่นกันเราไม่พลาดที่จะชิมเบียร์อันหลากหลายของดินแดนคาสิโนแห่งนี้ เบียร์ที่นี่โดยเฉลี่ยราคาไม่แพงถูกกว่าบ้านเราเยอะ ที่แพงสุดเห็นจะเห็นยี่ห้อชิงเต่า (Tsingtao) เบียร์จากจีนแผ่นดินใหญ่นั่นเอง ส่วนยี่ห้อไหนกระป๋องไหนจะเป็นอย่างไรตามไปดูกันเลย
เบียร์ขายได้ตลอดเวลาไม่เหมือนบ้านเราที่จำกัดเวลา

SUNSCO คล้ายโลตัสบ้านเรา

Tips การกินที่มาเก๊า

- คนที่นี่ฮิตกินลูกชิ้นลวกมากๆ แถว Senado คิวยาวเหยียด
- สายอาหารควรข้ามไปฝั่งไทปา ฝั่งมาเก๊ามีร้านไม่ค่อยเยอะ
- 7-11 ที่นี่มีถุงใส่ให้ไม่คิดเงินเพิ่ม
- ร้านทั่วไปไม่มีน้ำดื่มฟรี ต้องสั่งเพิ่มหรือเอาไปเอง
- น้ำเปล่า 7-11 ขวดละ 5-6.5$ โลตัสหรือ super market ขวดละ 2.5-4$
- เบียร์กระป๋องละ 4.5-10$
- Wine เริ่มต้นขวดละ 79$
- ร้าน Koi Kei มีสาขาอยู่ทั่วไปหมดตามแหล่งที่เที่ยว เดินไปชิมฟรีได้

แผนที่ลายแทง ตามมานี่ เจอแน่ **สีแดงคือที่เที่ยว สีฟ้าคือที่กิน



ดูรูปทั้งหมดได้ที่นี่


18-22 December, 2014 with AirAsiaThailand
Posted by Govit Thatarat on Wednesday, November 25, 2015

5 itong2go: November 2015 ทริปมาเก๊า 18-22 ธันวาคม 2557 อาหาร 8 อย่างที่ไม่พลาดเมื่อมาเยือนมาเก๊า! เที่ยวมาเก๊าทั้งทีแม้จะมีเวลาไม่มาก แต่เราก็ไม่พลาดที่จะลุยก...

[มาเก๊า] บุกเดี่ยวเที่ยวมาเก๊า - 11 สถานที่เที่ยวไปง่ายได้ด้วยตัวเอง

ทริปมาเก๊า 18-22 ธันวาคม 2557


มาเก๊า - 11 สถานที่เที่ยวไปง่ายได้ด้วยตัวเอง
มาเก๊าดินแดนที่มีส่วนผสมลงตัวทั้งเอเชียและยุโรปผสานกันออกมาเป็นเมืองที่ร่ำรวยทางวัฒนธรรม อาคารสถาปัตยกรรม อาหารการกิน ทำให้มาเก๊ากลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวในฝันของนักเดินทางจำนวนมาก ทั้งนี้ ปัจจุบันการเที่ยวมาเก๊าสะดวกมากๆไม่ต้องขอวีซ่าใดๆ เตรียมพาสปอร์ตให้พร้อมก็ไปได้แล้วยิ่งตอนนี้มีบินตรงจากเชียงใหม่ ไม่ต้องไปต่อเครื่องที่กรุงเทพให้เมื่อยตุ้มอีกต่อไป กับอีกทางคือมาจากฮ่องกงโดยทางเรือ คือนั่งเครื่องไปฮ่องกงเที่ยวเสร็จแล้วก็นั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามไปมาเก๊าใช้เวลาชั่วโมงเดียว ขึ้นท่าปุ๊ปเข้าแถวตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นก็ยินดีต้อนรับสู่มาเก๊า! ขากลับจองตั๋วบินจากมาเก๊าตรงถึงเชียงใหม่ได้เลยสะดวกสุดๆ มาถึงมาเก๊าทั้งทีอย่าพลาดไปเที่ยวทั้งแบบอินดี้และแบบแลนด์มาร์ค อยากรู้ว่าเจ๋งไปไหนมาบ้างตามมากันเลย
- - - - - - - - - - - - - - - - -

1. Macau Wine Museum, เดิน 10 นาทีจากท่าเรือเฟอร์รี่ 

ที่ตั้ง: 431 Rua de Luis Gonzaga Gomes, Macau
เปิด-ปิด: 10.00-20.00 ปิดวันอังคาร
ค่าใช้จ่าย: ค่าเข้าชมฟรี หากต้องการชิมไวน์ด้วยคนละ 15$ ได้ชิมไวน์สามตัว

ด้วยพื้นที่กว่า 1400 ตารางเมตรของพิพิธภัณฑ์ไวน์แห่งนี้จัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับไวน์อย่างครบถ้วน ทั้งประวัติศาสตร์ไวน์ การจัดเก็บไวน์ รวมถึงนิทรรศการที่จัดแสดงในรูปของแผนที่ ตัวหนังสือ รูปภาพและวีดีโอ รวมทั้งการจัดแต่งบรรยากาศให้รู้สึกได้ถึงพัฒนาการของไวน์ตั้งแต่สมัยโบราณจวบจนยุคปัจจุบัน

จากท่าเรือมาเก๊าใช้เวลาเดินเท้าเพียง 10 นาที ผ่านจตุรัสดอกบัวที่ผู้คนนิยมมาถ่ายรูปกัน เราก็มาถึง Macau Wine Museum ซึ่งอยู่ที่เดียวกับ Macau Grand Prix Museum เลย ค่าเข้าชมฟรีแต่เราเลือกเสียเงินเพื่อจะชิมไวน์ด้วย ไวน์ที่ให้ชิมก็แก้วเล็กๆคนละสามแก้วมีไวน์ให้เลือกสี่ขวด เป็นไวน์ของโปรตุเกสทั้งหมด ส่วนของการจัดแสดงก็น่าสนใจดี คนที่ชอบไวน์คงจะตื่นเต้นเลยทีเดียว
เดินผ่านจตุรัสดอกบัวก็แชะรูปมาสักหน่อย คนมาถ่ายรูปกันเยอะมาก

Macau Wine Museum

มีให้เลือกดูเฉยๆหรือจะชิมไวน์ด้วย ค่าใช้จ่ายคนละ 15$ ได้ 3 แก้ว

2. Macau Grand Prix Museum, อยู่ติดกับ Wine Museum

ที่ตั้ง: 431 Rua de Luis Gonzaga Gomes, Macau
เปิด-ปิด: 10.00-20.00 ปิดวันอังคาร
ค่าใช้จ่าย: ค่าเข้าชมฟรี

เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1993 พร้อมกับการฉลองครบรอบ 40 ปีของมหกรรมมาเก๊ากรังปรีซ์ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 1954 จากกลุ่มเล็กๆในมาเก๊าจนกลายเป็นงานระดับ International ในปัจจุบันที่ดึงดูดผู้ชมจำนวนมหาศาลให้เข้าร่วมรับชมการแข่งขันอันแสนตื่นเต้นระทึกใจนี้ ในส่วนพิพิธภัณฑ์จัดแสดงรถแข่งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์หลากหลายชนิด ทั้งยังมีเกมแข่งรถจำลองให้ได้เล่นด้วย (เด็กๆจองคิวเล่นยาวเลย) รถสวยๆมีหลายคัน แถมยังมีแท่นยืนรับรางวัลเป็นจุดเช็คอินถ่ายรูปเก๋ๆอีกด้วย
ทางเข้า Grand Prix Museum ต้องลงลิฟท์มาใต้ดินนะครับ


รถแข่งมีทุกแบบไล่มาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน

3. ย่านโคมแดง - Rua da Felicidade (ถนนแห่งความสุข)

ที่ตั้ง: Rua da Felicidade, Macau
ค่าใช้จ่าย: ฟรี

Rua da Felicidade หรืออีกชื่อหนึ่งคือย่านโคมแดงในอดีตเป็นแหล่งรวมหญิงบริการและบ่อนการพนัน ปัจจุบันก็ยังแดงอยู่คือเป็นสีแดงกันทั้งถนน บ้านเรือนล้วนมีประตูหน้าต่างสีแดงดูเข้ากันดู เป็นย่านที่เงียบๆไม่คึกคักมากนักคงเพราะอยู่ใกล้กับจตุรัสเซนาโดซึ่งเป็นที่นิยมมากกว่า คนมาที่นี่จะออกแนวอินดี้นิดๆ มีร้านดังๆอย่างร้าน Koi Kei Bakery ที่เดินไปย่านไหนที่มีนักท่องเที่ยวเป็นต้องเจอร้านนี้ Egg Tart ของเขาชึ้นชื่อ บางร้านเป็นร้านเล็กๆขาย Milk Tea รสชาติดี บ้างก็ขายหมูแผ่น เนื้อแผ่น ขายของชำบ้าง อาหารทะเล บะหมี่เกี๊ยว ถนนเชื่อมต่อกับซอยเล็กซอยน้อยเดินทะลุกันได้ทั่วไปหมด
ย่านโคมแดง (Rua da Felicidade)

ย่านโคมแดง (Rua da Felicidade)

4. Senado Square, นั่งรถเมล์สาย3 จาก Museum 10 นาที

ที่ตั้ง: Largo do Senado, Macau
ค่าใช้จ่าย: ฟรี

จตุรัสแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 19-20 เป็นศูนย์กลางของสถานที่สำคัญหลายแห่ง อาทิ ซากประตูเซนต์ปอล ตึกลีอัลเซนาโด สำนักแห่งความเมตตา และโบสถ์เซนต์โดมินิค ทั้งหมดนี้สามารถเดินไปได้ด้วยเท้า ที่จริงแล้วยังสามารถเดินต่อไปเที่ยวได้ถึงคาสิโนลิสบัวเลยทีเดียว (ประมาณรถเมล์สามป้าย) รอบๆจตุรัสเป็นตึกเก่าซึ่งถูกดัดแปลงเป็นร้านค้าแบรนด์เนมต่างๆ ร้านอาหารชื่อดัง ส่วนตามซอกซอยก็จะเป็นร้านเล็กๆ ร้าน Street Food ต่างๆ วันหยุดคนจะเยอะมากๆเพราะเป็นเหมือนจุดนัดพบก่อนจะพากันไปยังที่เที่ยวต่างๆ
มวลมหาประชาชนล้นหลามมาก ณ Senado Square แห่งนี้

ทางเข้า Holy House of Mercy อยู่ด้านข้าง

เค้าต่อคิวซื้ออะไรกัน มันคือลูกชิ้นลวกนั่นเองของกินยอดนิยมชาวมาเก๊า

ดูชัดๆหน้าตาแบบนี้ 


มองดีๆย่านนี้มีร้านเล็กๆซ่อนตัวอยู่ในซอกแคบๆ

ร้านนี้ขายแต่ของที่คัดมาแล้วทุกชิ้นเข้ากันไม่หลุดแนว

5. St. Dominic’s Church, อยู่ตรง Senado Square

ที่ตั้ง: Senado Square, Macau
ค่าใช้จ่าย: ค่าเข้าชมฟรี

โบสถ์เซนต์โดมินิคสร้างขึ้นในสมัยปลายศตวรรษที่ 16 ด้วยศิลปะแบบบาโร๊ค (Baroque-style) เป็นโบสถ์ในนิกายโรมันคาธอลิค เป็นหนึ่งใน 29 แห่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมของมาเก๊า ปัจจุบันยังเปิดใช้งานอยู่ตามปกติ ทั้งยังเป็นที่ตั้งของ The Treasure of Sacred Art Museum จัดเก็บงานฝีมือทางศาสนากว่า 300 ชิ้นอีกด้วย ด้านนอกทาสีเหลืองสวยงาม ด้านในงดงามกว่ามาก ให้ความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์ยิ่งใหญ่อลังการ ในวันที่ไปนั้นเป็นช่วงใกล้วันคริสมาสต์เลยได้ดูการแสดงดนตรีและร้องประสานเสียงของเด็กๆยิ่งเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์น่าเกรงขาม 
ด้านหน้า St. Dominic’s Church

ด้านใน St. Dominic’s Church อลังการงดงามมาก

6. Museum of Macau เดินจาก Senado Square 15 นาทีผ่านบ้านคน

ที่ตั้ง: No. 112 Praceta do Museu de Macau
เปิด-ปิด: 10.00-18.00 PM. (ห้องจำหน่ายตั๋วปิด 17.30)
ค่าใช้จ่าย: ผู้ใหญ่ 15$ เด็ก 10$
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขา (เล็กๆ) ชื่อ Fortaleza do Monte ซึ่งใช้เป็นป้อมปราการของมาเก๊าในศตวรรษที่ 16 ภายในจัดแสดงข้อมูลทางประวัติศาสต์ของเมืองมาเก๊าและกองทัพโปรตุเกส เนื้อที่ทั้งหมด 2800 ตรม. เป็นพื้นที่จัดแสดงงานกว่า 2100 ตรม.

ที่จริงจากจตุรัสเซนาโดถ้าเดินตามทางปกติจะได้เจอกับซากวิหารเซนต์ปอลก่อน จากนั้นสามารถขึ้นบันไดเลื่อนมายังมิวเซียมได้สะดวกสบาย แต่เราเลือกเดินมาอีกทางซึ่งต้องเดินเท้าขึ้นเนินเขาผ่านบ้านคนและร้านเล็กๆน่ารัก ทำเอาเหนื่อยพอสมควรแต่ก็ได้ประสบการณ์ที่แปลกออกไป ด้านบนสุดเป็นป้อมปราการมีปืนใหญ่รายรอบกำแพง ทั้งหมดไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชมเว้นแต่จะเข้าไปใน Museum of Macau ซึ่งทำได้ยิ่งใหญ่อลังการค่าชมเพียง 15$ นับว่าคุ้มค่ายิ่ง
Museum of Macau งดงามเดินขึ้นมาเหนื่อยแต่คุ้ม

Mount Fortress เป็นศูนย์บัญชาการทางทหารในอดีต

ป้อมปราการอันยิ่งใหญ่แข็งแกร่งในอดีต

อยู่บน Mount Fortress มองเห็นโรงแรม Grand Lisboa ชัดเจน

7. Ruins of St. Paul’s ซากวิหารเซนต์พอล

ที่ตั้ง: ติดกับ Museum of Macau
ค่าใช้จ่าย: 0$

ซากวิหารแห่งนี้เคยถูกขนานนามว่าเป็นโบสถ์คาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เดิมเคยที่ตั้งของ St. Paul's College and the Cathedral of St. Paul วิหารนี้ถูกสร้างขึ้นระหว่างปีคศ. 1602-140 โดยคณะ Jesuits จากนั้นได้ทลายลงเพราะเหตุเพลิงไหม้ขณะพายุไต้ฝุ่นเข้าถล่มเมื่อวันที่ 26 มกราคม 1835 ทางกองทัพโปรตุเกสจึงได้ปล่อยทิ้งร้างไว้ จากนั้นได้ถูกบูรณะขึ้นใหม่ระหว่างปี 1620-1627 โดย Carlo Spinola โดยมีเพียงด้านหน้าเท่านั้น ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง โดยได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งใน 29 มรดกทางวัฒนธรรมของมาเก๊า

ลงจากภูเขา Museum of Macau มาก็จะเจอซากวิหารเลย วันนั้นคนเยอะมากกกกๆๆๆ หาจุดถ่ายรูปแบบฮิปสเตอร์ไม่ได้เลยเพราะไปตรงไหนก็มีแต่คน สมแล้วที่เป็นจุดเช็คอินอันดับหนึ่งของมาเก๊า สภาพวิหารที่มีแต่ด้านหน้าสวยงามดูแข็งแกร่งนึกจินตนาการภาพทั้งวิหารได้เลย ถ้าไม่โดนไฟไหม้ไปคงจะงดงามกว่านี้มากนัก นักท่องเที่ยวทั้งหลายเอ๋ยจงอย่าพลาดจุดนี้
Ruins of St. Paul’s ถ่ายจาก Mount Fortress

ดูกันชัดๆกับมุมที่เห็นได้ไม่ง่ายนัก

ได้เวลาลงไปสำรวจใกล้ๆ สวยงามเหมือนที่เคยเห็นในรูปยังไงยังงั้น

นักท่องเที่ยวเยอะมากๆถ่ายรูปกันแบบเต็มที่

สาวๆหามุม Selfie กันแบบส่วนตัวๆ

8. Grand Lisboa Casino

ที่ตั้ง: Avenida de Lisboa, Macau
ค่าใช้จ่าย: แล้วแต่จะเล่น
โรงแรม Grand Lisboa มีทั้งหมด 47 ชั้น รวมความสูงทั้งสิ้น 261 เมตรจากพื้นดิน ส่วนของคาสิโนและร้านอาหารเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2007 ส่วนของโรงแรมเปิดเมื่อปลายปี 2008 ด้วยห้องพักจำนวนกว่า 430 ห้องรวมห้องสูท ส่วนคาสิโนมีโต๊ะเล่นพนันมากกว่า 800 โต๊ะและตู้ Slot Machine อีกกว่า 1000 ตู้

Grand Lisboa นับเป็นตึกที่โดดเด่นที่สุดในมาเก๊าเลยก็ว่าได้ ด้วยรูปทรงที่แปลกตาเหมือนกลีบดอกไม้บาน ยิ่งตอนกลางคืนเขาจะเปิดไฟแสงสีจัดเต็มสว่างไสวสวยงามยิ่งนัก ไม่ได้ถ่ายรูปข้างในคาสิโนมาไม่กล้าและก็คิดว่าเขาคงไม่ให้ถ่าย บรรยากาศเมื่อเดินเข้าไปเหมือนเข้าร้านเกมส์ตู้ที่มีแต่ตู้เกมส์เยอะแยะไปหมด แสงไฟกระพริบแว๊บวับๆ ยิ่งชวนให้เราอยากทดลองเสี่ยงโชคดูบ้าง ลองเล่นตู้สล๊อตดูใส่ได้เฉพาะแบงค์ฮ่องกงนะครับ ลองไป $20 มันก็ขึ้นเครดิตมาให้ 20$ กดเล่นได้สี่ห้าครั้งโดนเกินหมดเหลืออยู่ 1$ ทำอะไรไม่ได้ เก็บกระดาษไว้เป็นที่ระลึก ใครอยากลองก็ขำๆนะครับอย่าไปจริงจัง
ถ่ายแต่ข้างนอกอลังการมาก ไม่กล้าถ่ายข้างในกลัวเขาจับ (ซึ่งเขาก็ไม่ให้ถ่ายจริงๆ)

9. A-MA Temple

ที่ตั้ง: St. Lawrence's Parish, Macau
เปิด-ปิด: 07.00-18.00 
ค่าใช้จ่าย: 0$

วัดอาม่าตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมาเก๊า เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุด สร้างขึ้นเมื่อปีคศ. 1488 เพื่ออุทิศให้กับ “มัตซึ” เทพธิดาของชาวประมง ชื่อเกาะมาเก๊านั้นที่มาจากเมื่อครั้งทหารโปรตุเกสยกพลขึ้น ณ ที่แหง่นี้และได้ถามชาวบ้านว่าบริเวณวัดนี้เรียกว่าอะไร ชาวบ้านตอบว่า A-Ma-Gau คนโปรตุเกสจึงเรียกพื้นที่นี้ว่ามาเก๊าตั้งแต่นั้นมา

วัดแห่งนี้คนไปเยอะมากๆสมกับเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆที่คนจะต้องมา ทั้งถ่ายรูป จุดธูป จุดเทียน ขอพร บ้างเมื่อไหว้จุดนี้เสร็จแล้วก็ย้ายไปจุดอื่น (มีหกจุด) โดยต้องเดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆ ธูปของที่นี่มีทั้งแบบแท่งตรงเหมือนบ้านเรา (แต่แท่งใหญ่กว่ามาก) และแบบขดเหมือนยากันยุงยักษ์เรียกว่า ธูปวง มีแบบหนึ่งสัปดาห์หมด และแบบหนึ่งเดือนหมด หากเหนื่อยหรือหิวบริเวณด้านข้างวัดมีร้านขนม/ของฝากชื่อดัง Koi Kei ด้วยนะ
นักท่องเที่ยวมหาศาลต่างมุ่งหน้ามาที่นี่ A-Ma Temple

เปลวไฟและกลิ่นธูปตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ (มุมซ้ายคือธูปวง)

10. เดินเที่ยวชมวิวเมืองมาเก๊า

อันนี้คือไม่เจาะจงว่าจะไปที่จุดไหนแต่เป็นทัศนียภาพสวยๆที่เราประทับใจและได้บันทึกภาพมาฝาก บางครั้งสิ่งที่เราพบเจอระหว่างทางก็มีคุณค่าไม่น้อยไปกว่าจุดหมายปลายทางเลยทีเดียว


ตู้ไปรษณีย์ของมาเก๊าออกแบบให้ความรู้สึกแบบจีน

ทางเดินขึ้น Macau Museum

บังเอิญเจอร้านนี้ระหว่างทางเดินขึ้น Macau Museum

ถนน Largo do Lilau, Macau 亞婆井前地

Largo do Lilau, Macau 亞婆井前地

Largo do Lilau, Macau 亞婆井前地

Largo do Lilau, Macau 亞婆井前地

Largo do Lilau, Macau 亞婆井前地

ภาพจากถนน Largo do Lilau ถนนที่ได้ชื่อว่าเงียบสงบที่สุดแห่งหนึ่งของมาเก๊า

11. Macau International Airport

ที่ตั้ง: Taipa, Macau

สนามบินมาเก๊าตั้งอยู่ทางตะวันออกของเกาะไทปา เปิดให้บริการมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 1995 เพื่อขนส่งผู้โดยสารระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน และกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ช่วงระหว่างปี 2006 สนามบินแห่งนี้ให้บริการผู้โดยสารไปมากกว่า 5 ล้านคนและขนส่งสินค้ามากกว่า 220,000 ตัน

สนามบินมาเก๊าอยู่ไม่ไกลเมืองมาก นั่งแท๊กซี่จากจตุรัสเซนาโดใช้เวลาเพียง 15-20 นาที ค่าโดยสารประมามาณ 90-100$ ด้านในมีบริการรับฝากกระเป๋า มี 7-11 (ถ้ามีเงินเหลือเหมาะซื้อของกินเล่นต่างๆมาลองนั่งกินดู) McDonald และ Fast food ในส่วนของ Public Area หากเช็คอินเข้าไปแล้วก็ยังมีร้านอาหารและร้าน Duty Free อยู่ด้านในอีก บริการ Free WIFI ตลอดทั่วบริเวณสนามบิน ลืมบอก ห้องน้ำมีบริการทุกชั้นนะจ๊ะ แถมที่กดสบู่เป็นแบบอัตโนมัติซะด้วยคือเอามือเข้าไปใกล้ๆมันจะพ่นสบู่เหลวมาให้เอง
ภายในสนามบินบิน Macau International Airport

Free WIFI แบบเร็วจี๋สลายเลยเรานั่งรอไม่เบื่อแต่แบตจะหมดเอานี่สิ

(ซ้าย) ในห้องน้ำมีสองก๊อกอัตโนมัติขวาคือน้ำซ้ายคือสบู่เหลว ไม่ต้องกดมันออกเอง (ขวา) ในสนามบินมีตู้ให้เติมน้ำดื่มได้ฟรี มีสามหัวคือ ร้อน อุ่น เย็น เอาขวดไปเองนะจ๊ะ

Tips ลุยเดี่ยวเที่ยวมาเก๊า

- อยู่มาเก๊าใช้เงิน $HK ได้เลยแต่เขาไม่คืนส่วนต่างให้ (เล็กน้อย)
- ไม่มีรถ MTR มีแต่รถเมล์และแท๊กซี่ ขึ้นรถเมล์เตรียมเหรียญให้พร้อม 3.20$ ไม่มีทอน
- ใช้ภาษาโปรตุเกสและภาษาจีน ภาษาอังกฤษใช้น้อยมาก
- เมืองเล็กมาก ดูแผนที่เหมือนไกลที่จริงไม่ไกลมาก
- รถหรูๆแพงๆไม่มากเท่าฮ่องกง
- Casino คือแหล่งรวมความบันเทิงความคึกคักของเมืองนี้
- ร้านค้าแถบคาสิโนจะขายแต่ของที่ดีที่สุดแพงที่สุดเท่านั้น
- ที่เที่ยวแบบฮิปๆวัยรุ่นๆหายาก
- รถเมล์ไม่จอดทุกป้ายจะจอดเฉพาะป้ายที่กำหนด ต้องดูให้ดี
- อากาศเย็นกว่าฮ่องกงเล็กน้อยประมาณ 1-2 องศา
- ตรงท่าเรือจะมีสาวๆจากคาสิโนต่างๆมารอรับขึ้นรถบัส เราขึ้นคันไหนก็ได้ ฟรี!
- ห้องน้ำไม่มีสายฉีดชำระ กระดาษล้วนๆ
- คนที่นี่เรียกชั้น 1 ว่าชั้น G เรียกชั้นสองว่าชั้น 1F

แผนที่ตามรอยตะลุยเดี่ยวเที่ยวมาเก๊า **สีแดงคือที่เที่ยว สีฟ้าคือที่กินนะจ๊ะ

ดูรูปทั้งหมดได้ที่นี่เลยจ้า

18-22 December, 2014 with AirAsiaThailand
Posted by Govit Thatarat on Wednesday, November 25, 2015

5 itong2go: November 2015 ทริปมาเก๊า 18-22 ธันวาคม 2557 มาเก๊า - 11 สถานที่เที่ยวไปง่ายได้ด้วยตัวเอง มาเก๊าดินแดนที่มีส่วนผสมลงตัวทั้งเอเชียและยุโรปผสานกันออก...

Facebook Comments

Recommended Post

เฮียโก บรรยายให้น้องๆมช.ฟังเรื่องการเริ่มต้นธุรกิจทำ content ออนไลน์

 บรรยายผ่าน zoom ครับ ก็จะแห้งๆนิดนึงแต่ก็ได้เนื้อหาอีกแบบนึงอยู่นะ เปิดฟังเองอีกรอบนึงก็สนุกดี พูดตะกุกตะกักไปหน่อย