[New Post] รีวิวประสบการณ์พาลูกกางเต๊นท์นอนบนดอยปุย

กางเต๊นท์นอนดอยปุย
ใกล้จะหมดหน้าหนาวแล้วก็คิดว่าน่าจะพาลูกไปนอนกางเต๊นท์ซะหน่อย แต่ก็ไม่อยากขับรถไกล ลองหาข้อมูลดูพบว่าบนดอยสุเทพเรานี่แหละมีที่กางเต๊นท์นอนด้วยชื่อว่า ลานกางเต๊นท์ดอยปุย อยู่เลยวัดพระธาตุดอยสุเทพไปประมาณ 6 กม.

การจองเต๊นท์

โทรไปจองเต๊นท์ เจ้าหน้าที่บอกว่ามาได้เลยไม่ต้องจอง ตอนนี้หลังปีใหม่คนน้อยแล้ว แต่ต้องเตรียมอาหารไปเองนะเพราะไม่มีขาย ว่าแล้วก็ไปซื้อหมูมาหมัก ซื้อผักปลาอาหารเตรียมใส่รถไป อ่อ เขามีเตาอั้งโล่ให้เช่าด้วยนะแต่ผมกลัวไม่มีก็เลยเอาไปเอง ออกบ้านประมาณสามโมง (บ้านผมอยู่แถวศาลากลาง) ไปถึงลานกางเต๊นท์ประมาณสี่โมงนิดๆ ถนนดีแต่ทางจะเริ่มแคบหลังจากเลยตำหนักภูพิงค์ไป ให้ขับช้าๆรถสวนกันลำบากต้องแบ่งๆทางกันไป
พอไปถึงก็ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ เขาก็จะถามว่านอนเต๊นท์กี่หลัง แล้วก็จะให้ป้ายไปห้อยเต๊นท์ที่เราจะนอน เราก็เดินไปเลือกๆเต๊นท์ที่ว่างแล้วก็ห้อยป้ายจองไว้เป็นอันเรียบร้อย เสร็จแล้วก็ไปขนแผ่นรองนอนตรงที่ทำการมาปู ส่วนหมอนกับผ้าห่มก็มีให้เช่านะแต่ผมเอาไปเอง หลังจากนั้นก็เริ่มตั้งเตาเตรียมอาหาร ผมเดินหาฟืนเผื่อไว้ตอนกลางคืนกลัวว่าจะหนาว
เขาห้ามก่อกองไฟนะครับ แต่ก่อในเตาได้ คือห้ามก่อไฟบนดินนั่นแหละ

หลังจากนี้ก็จะเป็นการบรรยายตามภาพละกันนะครับ ไปกันเลย

นี่แหละครับหน้าตาของลานกางเต๊นท์ คือเขาจะกางไว้รอแล้วเราก็เดินไปเลือกเลยว่าจะนอนเต๊นท์ไหน คนที่เอาเต๊นท์มาเองก็หาที่ว่างๆกางได้เลย

มีจุดกางเต๊นท์หลายจุด ทั้งข้างบนใกล้สำนักงาน และข้างล่างใกล้ศาลาชมวิว ก็เดินๆเลือกเอาเอง ทำเลดีๆส่วนมากจะโดนฉกไปก่อนแล้ว ถ้าอยากได้ที่ดีๆก็ต้องมาไวๆ

ค่าเช่าเต๊นท์กับค่าที่ปูนอนไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่ ตอนกลับผมจ่ายไปห้าร้อยกว่าบาท เช่าสองเต๊นท์กับที่นอนหกอัน

พอเตรียมที่นอนเสร็จก็ได้เวลาจุดเตาทำอาหารก่อนที่จะมืดไปกว่านี้ อ่อ แนะนำให้เตรียมหลอดไฟหรือไฟฉายไปด้วยนะครับ กลางคืนเขาไม่เปิดไฟ จะมีแค่ไฟทางเดินเท่านั้น ไม่มีปลั๊กด้วยต้องเตรียมแบตสำรองไปเอง สัญญาณมือถือมีทุกค่ายฮะ

หกโมงแล้ว อากาศข้างบนดอยปุยเย็นกว่าข้างล่างเกือบสิบองศา คืนนี้มีหนาวแน่ๆเตรียมตัวไว้เลย

อย่างที่บอกว่าเขามีไฟฟ้านะ แต่กลางคืนไม่เปิด ส่วนที่เสียบปลั๊กตรงจุดกางเต๊นท์ไม่มีนะ ถ้าจะใช้จริงๆคงต้องไปขอเสียบที่สำนักงาน
อาหารเตรียมแบบที่ทำง่ายๆไป หมูย่าง ไข่ปิ้ง ต้มแซ่บ ก่อนมาแวะซื้อข้าวเหนียวที่ตลาดสองกิโล ขนมปังเผื่อทำแซนวิชตอนเช้า

เต๊นท์ข้างๆเขาเอาเต๊นท์มาเองอลังการมาก มีส่วนที่ยื่นออกมากันแดดกันฝนได้ด้วยเหมาะมากๆ สายนอนเต๊นท์ต้องมีไว้สักหลัง อุปกรณ์ครบแบบมืออาชีพมากๆ

เต๊นท์เช่าของเราหน้าตาแบบนะครับ หนึ่งหลังกว้างอยู่นะนอนได้สามคน ส่วนไฟผมเอามาเอง เป็นหลอดไฟแบบชาร์จอยู่ได้ถึงประมาณเที่ยงคืน หาซื้อได้ในเน็ตทั่วไป
ฟ้าเริ่มมืดแล้ว ในเมืองเริ่มเปิดไฟกันแล้ว

ฟ้ามืดสนิทเห็นไฟในเมืองชัดมาก ลูกชายบอกว่าไฟในเมืองทำให้ท้องฟ้าเป็นสีส้ม เออ เด็กมันก็ช่างสังเกตุเนอะ
ตัดภาพมาตอนเช้าเลยละกัน นี่คือภาพแรกที่มุดหัวออกมาจากเต๊นท์ เวลาประมาณหกโมงกว่าๆยังไม่เจ็ดโมง หนาวมั่กๆ ประมาณ 12 องศา

อุทยานเขาจะเน้นรณรงค์เรื่องขยะพลาสติก ขยะต่างๆผมแนะนำว่าเอาใส่ถุงกลับลงไปด้วยเลยดีกว่าทิ้งไว้เป็นภาระเจ้าหน้าที่เขา เอาขึ้นมาได้ก็เอาลงไปเองได้ไม่เป็นภาระใครครับ
ห้องน้ำข้างล่างเต็ม ก็เดินไปเข้าห้องน้ำข้างบนตรงสำนักงานได้ครับ มีห้องน้ำทั้งหมดสามจุด น้ำไหลแรงแถมยังเย็นเจี๊ยบ

น้ำแข็งยอดหญ้า เห้ย ไม่ใช่ หญ้าแห้งธรรมดาครับ สังเกตุหลายๆเต๊นท์เริ่มตื่นเริ่มขยับตัวกันละ

พระอาทิตย์เริ่มมาพร้อมอากาศที่เริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ แนะนำว่าควรสลายตัวก่อนเที่ยงฮะ ไม่งั้นมีเคืองแดดบนดอยร้อนจริงจัง

อาหารเช้าก็เอาที่เหลือๆเมื่อคืนนี้แหละครับมายำรวมกันใหม่ มาม่าเอยอะไรเอย จัดไปครับให้ได้อารมณ์มานอนเต๊นท์ เตรียมถ่านไปเยอะๆนะครับไม่งั้นตอนเช้าไม่พอ

กินเสร็จล้างถ้วยชามให้เรียบร้อย ตรงใกล้เต๊นท์ผมมีก๊อกน้ำอยู่ไม่ไกล สะดวกเวลาจะใช้น้ำครับ จุดอื่นๆก็น่าจะมีด้วยเหมือนกัน เก็บขยะใส่ถุงเอากลับลงไปด้วยนะครับ

จบแล้วครับ สำหรับทริปเร่งด่วนนอนคืนเดียวจบ ถือว่าเป็นการนอนบนดอยที่ใกล้เมืองมาก (น่าจะใกล้เมืองที่สุดละ) เดินทางสะดวกมาก ใช้เวลาเดินทางสั้นมากเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น ขากลับยิ่งเร็วกว่าขามาอีกเพราะลงดอยอย่างเดียวเลย สรุปว่า ถ้ามีวันว่างๆน่ามานอนสักสองคืน ตอนเช้าเดินไปจุดชมวิวด้วยจะดีมาก
สรุปทริปนอนเต๊นท์ดอยปุย : ดีงามพระรามแปด 9/10 ไปเลยจ้า
5 itong2go: January 2020 กางเต๊นท์นอนดอยปุย ใกล้จะหมดหน้าหนาวแล้วก็คิดว่าน่าจะพาลูกไปนอนกางเต๊นท์ซะหน่อย แต่ก็ไม่อยากขับรถไกล ลองหาข้อมูลดูพบว่าบนดอยสุเทพเรานี...

[New Post] 5 ข้อดีของการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน

ดีจริงนะการปั่นจักรยานเนี่ย

เป็นที่รู้กันดีว่าการออกกำลังกายนั้นมีมากมายหลายแบบ การปั่นจักรยานก็เป็นการออกกำลังกายชนิดหนึ่ง มาดูกันว่าทำไมหลายๆคนจึงเลือกการปั่นจักรยานมากกว่าการออกกำลังกายชนิดอื่น (ปล. การออกกำลังกายชนิดใดๆล้วนมีประโยชน์ทั้งสิ้นนะครับ) วันนี้มี 5 ข้อมาดูกันครับ

1. ช่วยให้สุขภาพจิตและสมองดีขึ้น

อันนี้มีผลงานวิจัยเลยนะครับ ของฝรั่งสักมหาลัยนึงนี่แหละ บอกว่าคนที่ปั่นจักรยานมักมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับตอนที่ไม่ได้ปั่น ข้อสังเกตุของผมเลยก็คือ เมื่อเวลาเราปั่นจักรยานหัวสมองเราก็จะจดจ่ออยู่ที่การปั่นและเส้นทาง เมื่อมีเรื่องต้องคิดน้อย หัวก็จะโล่ง พอหัวโล่งมันก็พร้อมที่จะคิดเรื่องปัญหาในชีวิตต่างๆของเราเองโดยอัตโนมัติ ทำให้หลายคนบอกว่ามักจะคิดงานได้ตอนปั่นจักรยานนี่แหละ

ปั่นทุกวันสุขภาพจิตสดใสหัวไวแท้ๆ

2. ช่วยในการลดน้ำหนัก

การปั่นจักรยาน 30 นาทีจะเผาผลาญแคลเลอรี่ประมาณ 300-500 cal ดังนั้น ถ้าเราปั่นจักรยานวันละ 2 ชั่วโมงก็จะเผาผลาญได้ถึง 1500-2000 cal ยิ่งถ้าร่วมด้วยกับการควบคุมอาหาร ก็จะยิ่งทำให้เห็นผลได้ชัดเจนในเวลาเพียงไม่นาน ที่สำคัญยังได้ความเพลิดเพลินในปั่นทำให้ไม่กดดันตัวเองระหว่างทางของการลดน้ำหนักอีกด้วย

3. ปั่นได้ง่ายๆไม่ยุ่งยาก

ข้อนี้ทำให้ต่างจากกีฬาหลายๆชนิด (อาจจะยกเว้นการวิ่งที่เกิดมาก็วิ่งได้กันแทบทุกคนอยู่แล้ว) หากถามผู้คนจำนวนมากจะพบว่า โดยส่วนมากก็จะปั่นจักรยานกันได้อยู่แล้ว ต่างจากการว่ายน้ำหรือการเล่นเทนนิสที่จะต้องรับการฝึกหัด ฝึกฝนกันสักระยะหนึ่งก่อนถึงจะเริ่มทำได้ ประกอบกับสมัยนี้ รถจักรยานเอย อุปกรณ์การปั่นจักรยานเอย ต่างหาซื้อได้ไม่ยาก มีให้เลือกหลายชนิดหลายราคา ตั้งแต่ถูกมากๆไปจนถึงแพงลิบเลยก็มี อันนี้เลือกกันตามงบที่สบายใจได้เลย

ปั่นจักยานวันนี้ ต่อชีวีวันข้างหน้า


4. ช่วยให้การเดินทางระยะกลางเร็วกว่าการเดินและสะดวกกว่าการขับรถ

การเดินทางระยะกลางหมายถึงระยะทางระหว่าง 5-10 กม. โดยเฉพาะในเขตเมืองที่การจราจรแน่นหนา จักรยานจะเป็นทางเลือกที่ดีมาก เพราะสามารถทำความเร็วได้มากกว่าการเดินหรือวิ่งอย่างน้อยสามเท่า แน่นอนว่าจักรยานจะต้องช้ากว่ารถยนต์แต่จักรยานไม่ต้องติดไฟแดง (จูงข้ามพร้อมคนเดินถนนได้) ไม่ต้องวนหาที่จอดรถ ไม่ต้องแวะเติมน้ำมัน ไม่ต้องจ่ายค่าผ่านทาง เอาเป็นว่าในระยะสั้นๆหรือกลางๆ จักรยานก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีครับ

5. ช่วยให้ได้พบเจอผู้คนหรือสังคมใหม่ๆ

พอปั่นจักรยานเราก็จะสนใจเรื่องจักรยานและจะพาตัวเองไปในที่ๆคนเขาคุยกันเรื่องจักรยาน ชวนกันไปปั่นจักรยาน หาร้านซ่อม ซื้ออะไหล่จักรยาน เกิดเป็นสังคมใหม่ๆเพื่อนใหม่ๆที่ชอบอะไรเหมือนๆกัน นอกจากสังคมเดิมที่เราอยู่ ซึ่งอาจก่อให้เกิดโอกาสใหม่ๆในชีวิตได้มากมาย หลายครั้งที่นักปั่นจักรยานปั่นสวนกันก็มักยิ้มพยักหน้าทักทายกันทั้งที่ไม่รู้จักกัน อย่างผมเองครั้งนึงปั่นแล้วโซ่ล้อหลังมีปัญหาระหว่างทางก็ได้คุณลุงนักปั่นท่านหนึ่งเข้ามาช่วยแก้ไข สุดท้ายก็แก้ได้สำเร็จและผมก็ได้รู้จักคุณลุงคนนั้นเป็นเพื่อนนักปั่นเพิ่มขึ้นมาอีกคน

ท่านใดมีประโยชน์ของการปั่นจักรยานอย่างอื่นๆเพิ่มเติมก็มาคอมเม้น มาไลค์ มาแชร์กันได้เลยนะครับ มาร่วมสร้างสังคมที่มีคุณภาพเพื่อลูกหลานของเราไปด้วยกันครับ
5 itong2go: January 2020 ดีจริงนะการปั่นจักรยานเนี่ย เป็นที่รู้กันดีว่าการออกกำลังกายนั้นมีมากมายหลายแบบ การปั่นจักรยานก็เป็นการออกกำลังกายชนิดหนึ่ง มาดูกันว่...

สรุปเรื่องราวชีวิตปี 2019 ปีที่ผมเปลี่ยนสีเกือบจะทั้งหัว




สรุปชีวิตในปี 2019 

ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่มทำสรุปชีวิตตอนสิ้นปีแบบนี้กันก่อน แต่ได้ลองทำมาสองปีละก็ลองทำต่อไปอีกสักปีก็แล้วกัน คนอื่นเขาเขียนกันตอนสิ้นปี ไม่อยากชนกับคนอื่นเรามาเขียนตอนต้นปีก็แล้วกัน

สุขภาพ


ซื้อ Smart Band มาลองใส่เพื่อวัด Heart Rate, Sleep วัดอะไรต่างๆนาๆนัยว่าสนใจสุขภาพมากขึ้น ก็ได้ผลนะเวลาเห็นมันอยู่ที่ข้อมือก็ทำให้ระลึกว่าเราซื้อมันมาทำไม ตอนแรกใช้ Mi Band3 ตอนนี้เปลี่ยนมาใช้ Huawei Honor5 เป็นจอสีและวัดได้แม่นละเอียดกว่า ส่วนของเก่าลูกชายขอไปทำเป็นนาฬิกาปลุก

ปั่นจักรยาน


ไม่ค่อยได้ปั่นจักรยานเท่าไหร่ ทั้งปีไม่น่าจะเกินสิบครั้ง นอกจากปั่นจักรยานก็ไม่ได้ออกกำลังกายชนิดอื่นเลย ปีนี้ตั้งใจและตั้งเป็นเป้าหมายองค์กรเลยว่าสุขภาพต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง

การนอน


นอนได้น้อยในแต่ละคืน ไม่เกิน 5-6 ชั่วโมง ทำให้ช่วงบ่ายจะไม่ค่อยสดชื่นเท่าไหร่ พยายามจะนอนให้เร็วขึ้นคือไม่เกินเที่ยงคืน เลทสุดไม่เกินตีหนึ่ง แต่ก็นั่นแหละทำไม่ค่อยจะได้ ต้องเอาใหม่ๆ

การกินการดื่ม


กินอาหารตามปกติแต่ไม่ค่อยจะ Healthy เท่าปีก่อนที่เช้ามาได้กินสลัดผักบ่อยๆ ก็ตั้งใจว่าจะกินผักกินปลาเยอะขึ้น กินแป้งกินเนื้อน้อยลง ส่วนการดื่มนี่น่าจะแทบทุกวันยกเว้นวันที่รู้สึกไม่สบายซึ่งเหมือนจะมีวันเดียว หลังๆมาดีขึ้นคือจะดื่มแค่แถวๆบ้านและไม่กลับดึก ถ้าอยากเมาก็จะเมาที่บ้านแล้วก็เข้านอน จะไม่เมานอกบ้านและไม่ไปนอกเขต ที่สำคัญยังต้องเมาไม่ขับ เรื่องน้ำหนักตั้งใจไม่ให้เกิน 63 กก. แต่ก็เลยมานิดๆหน่อยๆถ้าไม่ออกกำลังกายนานๆ ต้องระวังไม่ให้ลงพุงมันเสียบุคลิก

ความสัมพันธ์


กับลูกๆดีมาก ลูกโตกันหมดแล้วยกเว้นตัวเล็กที่ยังหกขวบ เป็นปีที่ต้องรับมือกับลูกที่เริ่มเป็นวัยรุ่น ทำให้เราต้องหาความรู้เพิ่มเติม ทั้งยังต้องใจเย็นละวางอารมณ์ทั้งปวง พูดช้าๆฟังเยอะๆ พบว่าการหัวเราะเยอะๆมีอารมณ์ขันมากๆช่วยให้เราสนิทกับลูกได้เพิ่มขึ้น เป้าหมายคือทำให้ลูกรู้สึกว่าในแง่นึงพ่อแม่ก็เหมือนเพื่อนที่มีอะไรก็พูดคุยด้วยได้ ไม่อยากห่างเหินหรือมีเรื่องที่ไม่สามารถพูดคุยกันได้ แต่ก็มีเผลอตัวดุลูกไปแรงๆครั้งนึงเหมือนกันนะเป็นตอนเช้าด้วย วันนั้นเสียใจไปทั้งวัน พอตอนเย็นเราไปรับกำลังจะพูดขอโทษแต่ลูกชิงพูดขอโทษขึ้นมาก่อน อารมณ์เหมือนในหนังเลย น้ำตาจะไหลแต่เก๊กไว้ ทำหน้านิ่งแต่จริงๆข้างในร้องแล้ว ดีจังที่ลูกกับพ่อต่างขอโทษกันและกัน ดีจริงๆนะ

กับภรรยา


เจ๊มิวได้กลับไปทำงานประจำช่วงปลายปี เวลาไปทำงานก็เลยไปใครไปมัน เจ๊เอารถยนต์ไป ส่วนเราไปมอเตอร์ไซค์ ตอนเย็นก็กลับบ้านมาเจอกันคุยกันทุกเรื่องเหมือนเดิม ยิ่งแก่ขึ้นเพื่อนก็ยิ่งน้อยลง โชคดีที่พี่มิวก็เป็นเหมือนเพื่อนสนิทกัน ส่วนมากจะคุยกันเรื่องงาน แต่ถ้าเป็นงานที่ทำด้วยกันจะทะเลาะกันทุกที555 รวมๆก็มีความสุขดีรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะอายุมากแล้ว อย่าเรื่องมากอย่าทำอะไรให้ยุ่งยาก อย่าเงื่อนไขเยอะ ให้ใช้ชีวิตง่ายๆเข้าไว้

กับน้องๆทีมงาน


ดีนะ ดีเลย ได้พาน้องหัวหน้าทีมสองคนไปดูงานคุยงานที่กรุงเทพสามคืน กลับมาน้องเปลี่ยนเป็นคนละคนเลย มุมมองการทำงานไม่เหมือนเดิม เหมือนน้องๆจะเริ่มเข้าใจเรามากขึ้น555 บางอย่างต้องพาไปเจอไปสัมผัส พูดให้ฟังอย่างเดียวมันไม่เข้าใจ ส่วนน้องคนอื่นๆก็ตั้งใจทำงานดี มีเรื่องน่าเสียใจคือต้องลดคนเพราะจ้างไว้ทั้งหมดไม่ไหว ช่วงนั้นเครียดหัวหงอกหัวหงิกเลยล่ะ แต่ก็ผ่านมาได้แหละ ทุกวันนี้ก็ยังบาดเจ็บอยู่ มันทำให้รู้สึกเหวอๆป๊อดๆได้เหมือนกันนะเรื่อง Sensitive แบบนี้ แต่ก็ได้บทเรียนหลายอย่างเลยล่ะ คงเหมือนที่เขาว่า ถ้าไม่เจ็บปวดก็ไม่เติบโต ก็ดีนะแต่โดนบ่อยๆก็ไม่ไหวน่ะไม่ได้ชอบแบบนี้

กับคนรอบข้าง


ไม่ค่อยได้เจอคนอื่นสักเท่าไหร่ ไม่ไปออกงาน ไม่ไปปาร์ตี้งานสังคมใดๆ ถ้าจะเจอใครบ้างก็เจอโดยบังเอิญ มีเพื่อนที่สนิทๆกันเจอกันบ่อยๆไม่กี่คน ส่วนมากก็เจอกันเพราะพาลูกมาทำกิจกรรมมาเล่นกัน กับช่วงที่เปิดร้านทำร้าน ตอนนั้นอยู่ร้านบ่อยก็จะเจอคนเยอะหน่อย ข้อเสียคือชอบจำชื่อคนไม่ได้ เสียมารยาทมากๆต้องแก้ไขเรื่องนี้ด่วนๆ หัวมันไม่ยอมจำอ่ะ บางทีก็เหมือนจะหัวดีนะแต่ไม่รู้ทำไมจำชื่อคนไม่ค่อยได้ สรุป ไม่ค่อยได้เจอใคร เฟซบุ๊คก็เล่นน้อยมาก พบว่าตัวเองเบื่อการรู้เรื่องของคนอื่นน่ะ แต่ก็ยังชอบอ่านเพจที่มีคอนเท้นดีๆอยู่นะ

เรื่องงาน



นี่จัด Priority เหมือนที่ตั้ง Key Competency ของออฟฟิศเลยคือ สุขภาพ ความสัมพันธ์ และสุดท้ายคืองาน

งานออฟฟิศรีวิว


อย่างที่บอกข้างบนคือมีการลดคนในทีมลง ส่งผลให้ทีมเล็กลงคนเหลือน้อยลง ห้องออฟฟิศดูใหญ่กว้างขวางมากเพราะไม่มีคน คนที่ยังอยู่ส่วนมากก็ชอบทำงานแบบ Remote Work เพราะมันสะดวกกว่า มาออฟฟิศก็ดีแหละเน็ตเร็วดีแต่ก็มีที่จอดรถน้อย ตอนนี้ลามมาถึงที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ละ ส่วนเนื้องานพอ Resize องค์กรก็มีการปรับนิดหน่อยคืองานก็จะไปโหลดกับคนที่ยังอยู่มากขึ้น แต่ก็ทำกันได้นะแปลกดี พอเริ่มปีใหม่มานี้ก็ปรับอีกนิดหน่อย ก็รู้สึกว่าลงตัวนะ ละก็มีการไป Partner กับองค์กรอื่นมากขึ้นกว่าเดิม แนวโน้มก็น่าจะดีแหละถ้าไม่ทะเลาะกับเขาซะก่อนนะ555 คงไม่หรอกแก่แล้วเก็บแรงไว้ลุยงานดีกว่า

ร้านฟ้าธานี


อันนี้หนักสุดของปีนี้แล้ว ผิดคาดไปหมดทุกอย่าง ทั้งร้านกาแฟ ทั้ง Co-Working ทั้งที่พัก ลองหมดทุกกระบวนท่าแล้วก็ยังเข็นไม่ขึ้น จนสุดท้ายต้องปิดโซนกลางวันเพราะต้นทุนสูงกว่าใครเพื่อน ลองมาทำแต่กลางคืนก็ยังลุ่มๆดอนๆ ทรงไม่ค่อยดีเลย ดีที่มีออฟฟิศเช่าพื้นที่ชั้นสองกับน้องอีกคนมาเช่าพักรายเดือน เลยทำให้มีแรงกระดึ๊บไปได้อีกหน่อย นี่เพิ่งไปคุยเรื่องค่าเช่ากับคุณป้าเจ้าของมา ถ้าเขาให้คำตอบก็คงจะชัดเจนแล้วล่ะว่าจะยังไงต่อดี แต่ไม่ว่าจะยังไงบอกตามตรงเลยว่าเข็ดกับโลก Offline มาก มันไม่ใช่โลกที่เราถนัดเลย ถนัด Online ก็ไปอยู่บน Online น่ะดีแล้ว เชื่อพี่

Homestay


มีทั้งหมดสี่หลัง ทั้งที่ทำเองและหุ้นกับเพื่อนคือ โป่งน้อย 1&2, โกมิว โฮมสเตย์ และฟ้าธานีคาเฟ่แอนด์เบด ความขายดีและไม่ดีเรียงลำดับตามนั้นเลย โดยเฉพาะอันสุดท้ายนี่เข็นลำบากมาก ขายยากกว่าใครเพื่อน คนที่มาพักแต่ละคนก็แนวอินดี้เหลือเกินไม่ใช่คนธรรมดาทั้งสิ้น ส่วนบ้านโกมิวก็ถือว่าขายได้น้อยแต่ก็ถึงกับไม่เงียบสนิทซะทีเดียว ส่วนสองอันแรกนั้นติดลมบนไปแล้ว ปีหน้าอาจจะทำ โป่งน้อย3 ถ้าหุ้นส่วนเห็นตรงกันนะ

งานพูดงานบรรยาย


ปีนี้น้อยลงไปกว่าปีก่อน แต่สนุกกว่าปีก่อนเนื่องจากอัพ slide ใหม่ๆเยอะประกอบกับไม่เกร็งอะไรทั้งสิ้นแล้ว เปิดเบียร์กินไปพร้อมคนฟังเลย555 สนุกนะโดยเฉพาะครั้งล่าสุดที่เป็นงานของ Google อันนั้นชอบ กับที่พูดกับทีมงานตอน Town Hall ปลายปีอันนั้นก็ดี เสียดายไม่ได้ถ่ายคลิปเก็บไว้ หัวหน้าทีมเตรียมตัวมาดีทุกคนเลย


หุ้นกองทุนต่างๆ


ไม่ได้ติดตามเลย และก็ไม่ได้ทั้งซื้อเพิ่มและขายอะไรทิ้ง ยกเว้นแต่ซื้อ DCA คือซื้อกองทุนเฉลี่ยทุกเดือนโดยไม่ดูราคา ออกแนวเหมือนหยอดกระปุกมากกว่า ส่วนนึงที่ไม่ดูก็เพราะไม่อยากจิตตกด้วยแหละ คนเราอ่ะนะถ้าหุ้นขึ้นเราก็จะดีใจจิตใจพองโตโลกสวยงาม แต่ถ้าหุ้นตกแดงเถือกก็จะทุกข์ใจกลุ้มใจ ไม่อยากอยู่ในมู้ดแบบนั้นก็เลยตัดใจไม่ดูแม่มเลยเพราะไหนๆก็ไม่คิดจะขายอยู่แล้ว สรุป ถือหุ้นอยู่สองตัวและกองทุนสองกอง เท่ากับปีก่อนหน้าเป๊ะเลย

จบละ ปีหน้าก็คงจะเขียนอีก ถ้าชอบอ่านแบบนี้รอปีหน้านะจ๊ะ ของปีก่อนๆค้นดูใน Blog ได้เลยจ้า
5 itong2go: January 2020 สรุปชีวิตในปี 2019  ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่มทำสรุปชีวิตตอนสิ้นปีแบบนี้กันก่อน แต่ได้ลองทำมาสองปีละก็ลองทำต่อไปอีกสักปีก็แล้วกัน คนอื...

Facebook Comments

Recommended Post

เฮียโก บรรยายให้น้องๆมช.ฟังเรื่องการเริ่มต้นธุรกิจทำ content ออนไลน์

 บรรยายผ่าน zoom ครับ ก็จะแห้งๆนิดนึงแต่ก็ได้เนื้อหาอีกแบบนึงอยู่นะ เปิดฟังเองอีกรอบนึงก็สนุกดี พูดตะกุกตะกักไปหน่อย