ทำไมต้อง การศึกษาทางเลือก (1)

เด็กเลิกโรงเรียนหิวมาก ทนไม่ไหวแวะตลาดซื้อของกินก่อน
มันค่อนข้างยากที่จะเขียนเรื่องนี้โดยไม่ให้ไปกระทบกับสิ่งที่เป็นทางเลือกอื่น หรือสิ่งที่อยู่ตรงกันข้าม ด้วยเพราะเชื่อว่า เราสามารถพูดสิ่งดีได้ โดยไม่ต้องไปเหยียบย่ำสิ่งอื่นว่าเลว สิ่งอื่นก็ดีเหมือนกันเพียงแต่เราไม่เลือก เพราะเราไม่สามารถเลือกสิ่งที่ดีได้ทั้งหมด เราสามารถเลือกบางสิ่งที่ดีได้เท่านั้น เพราะความจำกัดของเราในความเป็นมนุษย์นั้นเอง และเนื่องจากตัวผมไม่ใช่นักวิชาการ สิ่งที่จะเล่าก็ล้วนแต่มาจากประสบการณ์และความคิดเห็นส่วนตัวทั้งสิ้น เอาไปอ้างอิงที่ไหนไม่ได้ทั้งนั้นนะครับ ถือว่าอ่านเอาสนุกแบ่งปันความคิดเห็นกัน

ความไม่เชื่อถือในระบบการศึกษาหลัก
ทุกครั้งที่มีการจัดตั้งรัฐบาล รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ จะออกมาประกาศนโยบายปฏิรูปการศึกษา เน้นครูผู้สอนบ้าง เน้นเด็กเป็นศูนย์กลางบ้าง Tablet เพื่อการศึกษาบ้าง ก็สุดแต่จะว่ากันไป แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน การเรียนการสอนบ้านเราก็ยังเหมือนเดิม ครูก็สอนแบบเดิม นักเรียนก็กลัวครูเหมือนเดิม ไม่มีใครกล้ายกมือถามคำถามในห้องเหมือนเดิม เด็กถูกบังคับให้ท่องจำก่อนจะทำความเข้าใจเหมือนเดิม เด็กเรียนภาษาอังกฤษเยอะมากแต่ก็พูดไม่ได้เหมือนเดิม (ประเทศไทยติดอันดับท๊อป5 จากท้ายตารางประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ห่วยที่สุดในโลก) เด็กเรียนเยอะมาก เรียนพิเศษหลังเลิกเรียนและเสาร์อาทิตย์ก็ยังเรียนพิเศษเพื่อจะแย่งชิงกันเอาอันดับดีๆหรือสอบเข้าโรงเรียนดีๆมีชื่อเสียงเหมือนเดิม บลาๆๆ

ตัวผมเองก็เป็นแบบที่ว่ามาเหมือนกัน ในวัยเด็กผมไม่ได้แตกต่างจากเด็กสมัยนี้ ผมเรียนเยอะมาก เรียนเก่งสอบได้ที่1 ตลอด ผมสามารถสอบเข้าโรงเรียนไหนๆก็ได้ที่ต้องการ ในด้านการเรียนแล้วผมไม่มีที่ติ แต่สุดท้าย ผมไม่รู้ว่าผมต้องการอะไรในชีวิตนี้ 

การเรียนเก่งของผมไม่มีความหมายสักนิดเดียวเมื่อเราคิดถึงความหมายและเป้าหมายของชีวิต ผมไม่รู้เลยตั้งแต่เด็กว่าผมชอบทำอะไร อยากเป็นอะไร พ่อกับแม่ก็อยากให้เป็นหมอ เป็นวิศวะ โดยไม่ได้รู้จักลูกเลยว่าเขาถนัดอะไร ไม่เคยสังเกตุว่าเขามีทักษะอะไรเป็นพิเศษเพื่อจะได้ส่งเสริมเขาไปในทางนั้น ถ้าโลกนี้มีแต่หมอกับวิศวกร ก็คงไม่มีใครปลูกข้าวให้เรากิน ไม่มีใครเล่นดนตรี ทำงานศิลปะ ไม่มีใครทำอาหาร ไม่มีช่างฝีมือ ไม่มีนักบิน ไม่มีๆๆๆๆ มีแต่หมอกับวิศวะ แบบนี้คงเรียกว่าโลกไม่ได้ โลกน่าจะหมายความถึงความหลากหลายที่อยู่ร่วมกัน พึ่งพาอาศัยกัน ให้เกียรติกันในทุกสาขาอาชีพ

ด้วยความไม่เชื่อมั่นในระบบที่สร้างคนมาเป็นหุ่นยนต์ ปั๊มคนออกมาจากโรงงานเพื่อมาทำอะไรซ้ำๆ โดยให้คนถูกขังในกรอบความคิดเดิมๆ ผมจึงเลือกการศึกษาแนวนี้ให้ลูก รวมถึงตัวผมเองด้วยที่จะเชื่อมั่นในสิ่งตัวเองเลือกด้วยเหมือนกัน

ปัญหาทางความคิด
ผู้คนทุกวันนี้ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีความสามารถในการทำสิ่งต่างๆ สิ่งที่เขาไม่มีกันคือ ความสามารถในการคิด มีคำกล่าวติดตลกว่า คุณให้คนทำอะไรก็ได้ ยกเว้นแต่ให้เขาคิด และแม้ว่าคนบางส่วนคิดเป็นแล้ว แต่ก็ยังขาดการลงมือทำที่มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะพิสูจน์ให้เขาเห็นถึงศักยภาพความเป็นมนุษย์ของเขาเอง ดังนั้น คนจำนวนมากจึงตกอยู่ในกับดักความล้มเหลวทั้งที่เขาทุกคนล้วนแต่มีความสามารถในตัวเองทั้งสิ้น

โรงเรียนทางเลือก (ผมรู้เฉพาะของลูกผมนะ ไม่ได้เหมารวมทั้งหมด) สอนให้เด็กมีอิสระในการลงมือทำ มีความคิดสร้างสรรค์ แม้แต่การเล่นก็ให้อิสระ ของเล่นในโรงเรียนมักจะเป็นบล๊อกไม้ ท่อนไม้ ก้อนหินก้อนดิน เพื่อว่า เมื่อเขาอยากให้สร้างหรือเนรมิตให้มันเป็นอะไร ก็สามารถทำได้เองเลย เครื่องบินของเด็กชาย A ก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนกับเครื่องบินของเด็กชาย B ก็ได้ ไม่มีผิดถูก ที่สำคัญคือ จะไม่มีเครื่องบินพลาสติกของเล่นเด็ดขาด เพราะนั่นเป็นการจำกัดจินตนาการของเด็ก มันสำเร็จรูปมาแล้ว เด็กไม่ได้คิดอะไรเลย แค่ไถๆไปมา

ผมได้คุยกับคนจำนวนมาก พบว่าที่เขายังอยู่กับที่ ยังไม่ไปถึงไหน เพราะความคิดนั่นเอง เขาไม่กล้าคิดถึงวันที่ชีวิตจะสะดวกสบาย ชีวิตที่ไม่ต้องผจญกับรถติด ชีวิตที่ไม่ต้องทำงานตลอดเวลา ชีวิตครอบครัวที่มีความสุข เขาคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ ทั้งที่ยังไม่ได้ลองคิดหรือลงมือทำเสียด้วยซ้ำ ความคิด ความฝัน จินตนาการ สำคัญมากๆ ถ้าไม่มีคนกล้าคิดอะไร ป่านนี้โลกเราคงไม่มีนวัตกรรมอะไรเป็นแน่แท้ พวกเราคงยังอยู่ถ้ำกันเหมือนยุคหิน และเชื่อไหมว่าปัญหานี้ ส่วนนึงมาจากระบบการศึกษาในปัจจุบัน และถ้าเราเห็นว่ามันไม่ถูกต้อง เราก็ไม่จำเป็นต้องไปทำตามเขา สิ่งที่คนหมู่มากทำตามกันใช่ว่าจะเป็นสิ่งถูกเสมอไป

ครั้งหน้ามาต่อตอน 2 
5 itong2go: ทำไมต้อง การศึกษาทางเลือก (1) เด็กเลิกโรงเรียนหิวมาก ทนไม่ไหวแวะตลาดซื้อของกินก่อน มันค่อนข้างยากที่จะเขียนเรื่องนี้โดยไม่ให้ไปกระทบกับสิ่งที่เป็นทางเลือกอื่น หรือสิ...

Facebook Comments

Recommended Post

เฮียโก บรรยายให้น้องๆมช.ฟังเรื่องการเริ่มต้นธุรกิจทำ content ออนไลน์

 บรรยายผ่าน zoom ครับ ก็จะแห้งๆนิดนึงแต่ก็ได้เนื้อหาอีกแบบนึงอยู่นะ เปิดฟังเองอีกรอบนึงก็สนุกดี พูดตะกุกตะกักไปหน่อย