ด่านยาก IELTS Listening score 7.5

ทดลองสอบครั้งแรก ได้ 5.0

ตามกฎใหม่ของ CIC ถ้าไม่คลาดเคลื่อนจากที่ประกาศไว้ สองคุณสมบัติที่จะเข้าข่ายพิจารณาคือ อายุ และภาษา เรื่องอายุคงจะไม่ให้แก่เกินไป คือยิ่งหนุ่มน่าจะยิ่งได้คะแนนเยอะ ส่วนเรื่องภาษานี่เขียนไว้เลยว่า Overall จะต้องได้ 6.5 เว้นแต่ Listening จะต้องได้ 7.5 ขึ้นไป

ถ้าใครเคยสอบมาก่อนจะรู้ว่า การจะได้ 6.5 สำหรับคนไทยธรรมดานั้นเป็นเรื่องที่ยากมากแล้ว จะเอา 7.5 นี่คือแบบว่าต้องกัดฟันสู้เลยทีเดียว

ผมก็ตัดสินใจวางทุกอย่าง เพราะถ้าไม่ได้ 7.5 Listening เราก็ไม่ได้ไปไหนอยู่ดี มุ่งสู่การสอบอย่างเดียว ไปขอใบสมัครที่ศูนย์สอบ อยู่ตรงมาลินพลาซ่าตรงข้าว มช. วันสอบที่เชียงใหม่มีเดือน มีค. กับ พค. ผมเลือกเอา พค. จะได้มีเวลาเตรียมตัวทัน

ว่าแล้วก็มาตั้งหลักลองสอบออนไลน์ดูก่อนเลย ครั้งแรกสอบได้ 5.0 ฟังไม่ค่อยทันเลย สอบ Listening อย่างเดียวก่อนเลยไม่สอบอย่างอื่น ข้อสอบมี 4 partsๆละ 10 ข้อ รวม 40 ข้อ ต้องได้ 33 ขึ้นไปถึงจะได้ 7.5 แต่ละ part ความยากง่ายไม่เท่ากัน ข้อสอบจะเป็นคนละแบบ เช่น part แรกให้ฟังเรื่องคนถูกสัมภาษณ์ขณะติดต่อขอรับหมาไปเลี้ยง part 2 เป็นเรื่องการฟังคณะกรรมการเมืองอธิบายแผนพัฒนาท้องถิ่น คือคนละเรื่องเลย 

สอบครั้งที่สองได้น้อยกว่าเดิม 4.5 - -"
วันถัดมาลองอีกที ข้อสอบใหม่ ปรากฎว่าได้ 4.5 เหงื่อตกเลย อะไรวะเนี่ย ทำไมกูถอยหลัง ความท้อมันวิ่งเข้ามากระแทกเยอะมาก ในหัวคิดจะทำได้ไงวะ มึงไม่ได้หรอก มึงไม่ได้เกิดเมืองนอก มึงไม่เคยไปเมืองนอกด้วยซ้ำ บลาๆๆๆ ก็รับฟังไว้แต่ไม่ใส่ใจ ยังเปิดซีดี โหลดไฟล์ IELTS ต่างๆมาใส่ iTunes และใส่มือถือ และไรท์แผ่นใส่ไปเปิดฟังในรถด้วย เรียกว่า หน้ามึน ว่างั้น

มีคำนึงได้อ่านมาจากทวิตเตอร์ เขาบอกว่ามันไม่ยากถ้าเราต้องการจะตีกอล์ฟลงหลุม สิ่งที่ต้องทำคือ ตีไปเรื่อยๆโดยไม่หยุด สักวันนึงมันจะต้องลงหลุมอย่างแน่นอน สิ่งที่จะหยุดไม่ให้ลงหลุมได้มีสองอย่างคือ เราหยุดตี กับเราได้ตายไปก่อน นอกจากนั้นไม่มีเหตุผลใดๆที่มันจะไม่ลงหลุม ไม้ไม่ดี  ท่าไม่สวย หรือแม้แต่ตีไม่เป็นล้วนไม่ใช่ข้ออ้างทั้งสิ้น ว่าแล้วผมก็ถือว่าตัวเองคือคนที่ต้องการเอาลูกกอล์ฟลงหลุมให้ได้ก็แล้วกัน

สอบครั้งที่สาม (ข้อสอบของครั้งแรก) ได้ 6.5 ส่วนนึงเพราะจำได้แล้ว
ตอนนี้ทุกอย่างรอบตัว มีแต่เสียงภาษาอังกฤษ การพิมพ์ทั้งหมด 100%ใช้ภาษาอังกฤษทั้งหมด (ยกเว้นพิมพ์บล๊อกนี้) การฟังมากกว่า 90% ฟังภาษาอังกฤษทั้งหมด พูดกับลูกก็พยายามพูดอังกฤษ กับเมียคงไม่ไหวต้องคอยมาตอบตลอด กับลูกเขาเข้าใจได้เลย พื้นฐานเขาดี อยากฝึกเมีย แต่ต้องฝึกตัวเองก่อนไม่งั้นแห้วกันหมด

ตั้งใจว่าจะทำข้อสอบอย่างน้อยวันละสองครั้งเป็นอย่างต่ำ เพราะเวลาเตรียมตัวเหลือแค่สองเดือนกว่าๆ ถ้าพลาดก็ต้องสอบใหม่อีก วันทั้งวันฟังพูดอ่านเขียนอังกฤษล้วน ฟังจนเอียนครับ เอาให้อ้วกไปข้างนึงเลย ดูซิว่าลูกกอล์ฟมันจะลงหลุมมั้ย
5 itong2go: February 2013 ทดลองสอบครั้งแรก ได้ 5.0 ตามกฎใหม่ของ CIC ถ้าไม่คลาดเคลื่อนจากที่ประกาศไว้ สองคุณสมบัติที่จะเข้าข่ายพิจารณาคือ อายุ และภาษา เรื่องอาย...

Canada จะเปิดรับใบสมัคร Skilled Worker อีกครั้ง May 4, 2013 นี้แล้ว

ไม่ต้องรอถึงกลางปีแล้ว เร็วกว่าเดิม
เมื่อคืนนอนหลับไปแล้วก็ตื่นมากลางดึก นอนไม่หลับแล้วก็มานั่งหาข้อมูล Canada ต่อ ข้อมูลไม่ต้องไปหาที่ไหนยากเลย ในเว็บ CIC มีบอกให้หมด บางทีเรามัวไปบ้าหาที่อื่น ทั้งที่ของ CIC น่าเชื่อถือสุดแล้ว มัวไปหาจากที่อื่นไม่หาจากต้นตอของมัน

CIC ระงับการรับใบสมัครมาตั้งแต่ July 1, 2012 โดยให้เหตุผลว่าจะปรับปรุงระบบการ Process ให้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ทั้งนี้ไม่ระงับสำหรับผู้ที่ยื่นสมัครโดยมี Job Offered and Ph. D steam ถ้าเป็นสองแบบนี้ยื่นได้เลย โอกาสได้สูงอยู่แล้ว

การยื่นแบบ Skilled Worker ที่ผ่านมา เป็นการยื่นแบบ no job offered คือ แคนาดาคัดคนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ตลาดแรงงานต้องการ ถ้าใบสมัครอนุมัติก็จะออก PR Card ให้ไป Land และ Settle รวมทั้งหางานทำด้วยตัวเอง คือ คุณต้องมีคุณสมบัติในสาขาอาชีพตามที่เขาต้องการ และต้องโชว์ยอดเงินในบัญชีที่จะมีชีวิตรอดอยู่ได้อย่างน้อย 6 เดือนหากยังหางานทำไม่ได้ (ยอดเงินแล้วแต่จำนวนสมาชิกในครอบครัวที่ไปด้วยกัน)

ที่จะเปิดรับใหม่ในเดือนพฤษภาคมนี้ คาดว่าจะเป็นแบบเดิมคือไม่มี Job Offered ก็ยื่นได้ แต่จะเข้มงวดในสองจุดหลักๆคือ ความสามารถด้านภาษา และเรื่องอายุ เพราะจากสถิติแล้วพบว่า คนที่มีความสามารถด้านภาษาสามารถย้ายถิ่นฐานไปยังแคนาดาและใช้ชีวิตเอาตัวรอดได้ดีกว่าคนที่ทักษะด้านภาษาต่ำ ส่วนเรื่องอายุ น่าจะหมายถึงการจำกัดเพดานอายุลดลง แต่ก่อนนั้นกำหนดให้ผู้ยื่นต้องมีิอายุไม่เกิน 50 ปี ครั้งนี้อาจปรับให้ต่ำลงมาอีก เพื่ออายุการทำงานจะได้นานขึ้น ทั้งนี้ ภาพรวมเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของแคนาดา

เอาล่ะ เรื่องอายุผมก็ยังไม่แก่ เรียกว่าหนุ่มน้อยอยู่แล้ว เรื่องภาษา ตอนแรกถ้าได้ IELTS ประมาณ 6-6.5 ก็น่าจะยื่นได้แล้ว แต่จากกฎใหม่นี้ คาดว่าคะแนนเฉลี่ยน่าจะต้องอยู่ที่ 6.5-7.0 เป็นอย่างน้อย ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยว่าถ้าจะสอบจะต้องทำอย่างไร

เข้าไปที่ ielts.org เลือกประเทศเลย จะเจอสนามสอบและวันสอบที่จะมาถึง
ผมเข้าไปค้นดู สนามสอบเมืองไทย มีที่ขอนแก่น กรุงเทพ และที่เชียงใหม่ครั้งต่อไปจะมีวันที่ 23 Feb ซึ่งหมายถึงวันมะรืนนี้ ผมเตรียมตัวไม่ทัน ครั้งถัดไปคือ Mar 9, 2013 อันนี้ค่่อยน่าลุ้น สนามสอบอยู่ที่โครงการมาลิน พลาซ่า ตรงข้าม มช.นี่เอง ค่าสมัครสอบคนละ 5900 บาท ผลสอบเก็บไว้ใช้ได้นานสองปี อ้อ และเราต้องเลือกสอบแบบ General Training นะครับ ไม่ใช่ Academic

ว่าแล้วขอชะแว้บไปหาโหลดคู่มือเตรียมสอบ IELTS มาซุ่มซ้อมก่อนละครับ สอบครั้งละ 5900 บาท เราคงสอบบ่อยๆไม่ไหว มาขั้นนี้แล้ว ต้องหมัดเดียวจอดครับพี่น้อง ลุย!!

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
http://www.cic.gc.ca/english/department/media/releases/2012/2012-12-19.asp
IELTS Thailand
5 itong2go: February 2013 ไม่ต้องรอถึงกลางปีแล้ว เร็วกว่าเดิม เมื่อคืนนอนหลับไปแล้วก็ตื่นมากลางดึก นอนไม่หลับแล้วก็มานั่งหาข้อมูล Canada ต่อ ข้อมูลไม่ต้องไปหาที่ไ...

เมื่อ itong2go จะกลายเป็น itong3go แล้วแผนไปแคนาดาจะเป็นอย่างไร

ตัวสูงจริงใหญ่จริง ดื่มนม ดื่มน้ำผลไม้เถอะ
เจ๊ท้องน้องอีกคนแล้วครับ โอ้ มายก๊อด พระเจ้าจ๊อด มันยอดมาก คนล่าสุดนี่จะห่างจากลูกคนเล็กถึงหกปีทีเดียว นี่แหละครับผลของการเกี่ยงกันทำหมัน ฮี่ๆๆ เพื่อนมักถามว่า นี่ตั้งใจมีอีกคนเลยใช่มั้ย บอกได้เลยครับว่าตั้งใจทุกคน และชอบถามกันเหลือเกินว่าไปทำอีท่าไหนถึงโผล่มาอีกคน ก็จะตอบยังไงล่ะ ก็ท่าเหมือนๆท่านๆนั้นแหละ เด็กเขาอยากเกิดก็มาเอง ดีใจครับ สมาชิกตัวโกจะเพิ่มขึ้นอีกคนแล้ว

ปัญหาใหญ่ที่สุดตอนนี้คือ น้องใหม่จะชื่อ โก อะไรดี คิดกันมาเยอะ โกแกงมั่ง โกฮังมั่ง โกฮับ โกบลาๆๆๆ สุดท้ายแล้วมาลงตัวที่ บิงโก สำหรับเด็กผู้หญิง และ มาโก สำหรับเด็กผู้ชาย (ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเพศอะไร)

สองโก จอมแสบ
แผนการณ์ที่จะไปแคนาดาก็ยังคงเดิม สิ่งที่เราจะไม่มีวันทิ้งไปคือ ความฝัน อันนี้ขอให้ยึดให้มั่นแม้คุณไม่เหลืออะไร แต่ความฝันคุณต้องยังมี คนจำนวนมากมีเงินทอง แต่เขาแห้งแล้งเพราะเขาไม่มีความฝัน เขาถูกโลกปัจจุบันพรากความฝันไปจากเขาเสียแล้ว

ทุกวันนี้ผมก็ยังต้องไปฝึกทำอาหารอยู่เหมือนเดิม ที่ร้านเดิม ความเข้มข้นเหมือนเดิมทุกอย่าง ตอนนี้ทำเป็นหลายอย่างแล้ว อร่อยครับ ขอบอก ถามเจ๊ดูได้ แต่ก็ยังเหลืออีกหลายอย่างที่ต้องหัดทำเพิ่มและต้องทำให้คล่อง ความสามารถนี้จะช่วยให้ผมพาครอบครัวไปรอดได้ในช่วง settle ที่แคนาดา

ตอนแรกอยากไปเร็วๆ ผมจะยื่นแบบ Work Visa แต่ติดที่ว่าลูกๆจะไม่ได้รับสวัสดิการอย่างเต็มที่เหมือนกับ PR คืออาจจะไม่ได้ค่าเลี้ยงดูสำหรับเด็ก (แคนาดาเขาจ่ายให้สำหรับครอบครัวที่มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์) กรณีนี้ลูกสามคนน่าจะได้รับประมาณเกือบ 1000 เหรียญ ถ้าขาดตรงนี้ไปเราแย่เลย ก็เลยถอยมายื่นแบบ PR เอาดีกว่า รอนานหน่อยแต่ก็พอดีกับที่ โกตัวใหม่จะเกิดมาและโตสักหน่อยพอที่จะขึ้นเครื่องไปได้

การขึ้นเครื่องไปแคนาดาใช้เวลาประมาณ 18-20 ชั่วโมง ซึ่งถือว่านานมาก โดยเฉพาะสำหรับเด็ก พ่อแม่บางทีมักจะผสมยานอนหลับแบบอ่อนให้ลูกกิน เพื่อจะได้หลับยาว แต่ไม่ดีสำหรับเด็กโดยเฉพาะสมองมันโดนกด แต่ถ้าเด็กทารกก็ต้องระวังไม่ให้เสียงรบกวนคนอื่น และเป็นภาระของแม่ที่จะต้องอุ้มอยู่เกือบตลอดเวลา

ตอนนี้ก็รอกลางปีนี้ที่ CIC จะเปิดให้ยื่น PR แบบเดิมได้ และฝึกฝีมือต่อไป ฝึกภาษาต่อไป ดูแลลูกที่กำลังจะเกิดมา เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการไปปักหลักในต่างแดน วางแผนดูแลบริษัทที่เมืองไทย ฝากฝังงานไว้กับคนที่ไว้ใจได้ ผลักดันบริษัทไปข้างหน้าให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องได้ทำงานที่ดี มีความสุข และได้ผลตอบแทนที่อยู่ได้สบาย ไม่เดือดร้อนและมีเงินเก็บ มีหลักชีวิตที่มั่นคง นั่นแหละคือที่ผมทำอยู่และจะทำต่อไป
5 itong2go: February 2013 ตัวสูงจริงใหญ่จริง ดื่มนม ดื่มน้ำผลไม้เถอะ เจ๊ท้องน้องอีกคนแล้วครับ โอ้ มายก๊อด พระเจ้าจ๊อด มันยอดมาก คนล่าสุดนี่จะห่างจากลูกคนเล็กถึงหก...

อัพเดทสถานการณ์ Virtual Office #gomew

โกมิว โกแมว ทำงานกันที่บ้านนะจ๊ะ
จากที่เราได้ลองใช้  Virtual Office กันมามากกว่าครึ่งปีแล้ว ได้พบปัญหาและก็ได้แก้ไขกันมาหลายอย่าง จะเห็นได้ชัดว่า ประสิทธิภาพของระบบนี้ จะขึ้นอยู่กับคนที่มีคุณภาพเป็นสำคัญ คือ คนที่ทำงานนี้ต้องบังคับตัวเองได้ ระบบจะเพียงคอยกำกับแบบหลวมๆเท่านั้น โดยจะมีผลงานเป็นตัวชี้วัดในแต่ละวัน ว่ากันตรงๆระบบนี้ไม่เหมาะกับคนขี้เกียจ หรือทำงานแบบหลอกๆ พวกนั้นไปทำงานในออฟฟิศจริงๆจะแนบเนียนกว่าทำงานแบบนี้

ช่วงก่อนที่เรารับสมัครพนักงานเพิ่มเติม โดยระบุไปว่าทำงานที่บ้าน ปรากฎว่าสมัครกันมาล้นหลาม พอคุยดูเขาเข้าใจว่างานสบาย ทำตอนไหนก็ได้ ซึ่งก็ถูก แต่ที่ผิดคือ เขาเหล่านั้นคิดว่าจะทำเป็นงานเสริม เป็นงานอดิเรก เป็นงานที่สองรองจากงานหลัก อันนี้ไม่ถูกละ เพราะงานนี้มันจริงยิ่งกว่าจริง ว่ากันที่จริงแล้วเราไม่ได้ทำงานวันละแปดชั่วโมง เสร็จแล้วเลิกงานอะไรแบบนั้น แต่เราทำงานกันแทบจะทุกเวลา วันหยุดก็ยังทำอยู่ อย่างน้อยก็ยังเปิดมือถือ ติดต่อได้ สั่งงานได้ เราไม่ได้เป็นแบบห้าโมงเย็น ชัตดาวน์ ปิดมือถือ ขาดการติดต่อ แบบนั้นเราไม่ทำ ระบบนี้หลอมชีวิตเรากับงานแทบจะเป็นหนึ่งเดียวกัน ฉะนั้น ถ้าคุณไม่รัก ไม่จริงจัง จริงใจกับงานของคุณ คุณทำงานนี้ไม่ได้ครับ

อุปกรณ์และเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับ Virtual Office

บอกความจริงเลยว่า คอมพิวเตอร์ ของผมแทบไม่เคยปิดเลย ไม่ใช่ว่าผมใช้มันตลอดเวลา แต่มันต้องพร้อมตลอดเวลาที่ผมจะใช้ กดคลิกเดียวมันต้อง standby พร้อมทำงานแล้ว เพราะเวลาเราน้อย การทำงานนี้มันต้องไปข้างนอก ต้องคุยกับคน ต้องกลับมานั่งโต๊ะ ต้องออกไปทำข่าว ไปถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอ เก็บเงิน วางบิล ออกไปกินข้าว ทำสัญญา จ่ายบิลต่างๆ ฉะนั้น คอมพิวเตอร์ที่ดีสำหรับทีมงานทุกคน สำคัญมาก

โทรศัพท์มือถือ จำเป็นมาก ทีมงานทุกคนจำเป็นจะต้องติดต่อได้ในเวลาที่ต้องการ ที่จริงก็ไม่จำเป็นต้อง Smart Phone แค่ใช้โทรรับได้ก็พอ แต่ถ้าได้แบบ connect social network ไปด้วยก็จะดีมาก

Internet อันนี้ขาดไม่ได้นะ ทุกคนต้องแทบที่จะ online ตลอดเวลา เพราะงานของเราต้องอัพเดท content ขึ้นบนเว็บ ต้องเช็ค fanpage , twitter ไม่ได้หมายความว่า ให้เล่นเฟซบุ๊คตลอดเวลา แต่อินเตอร์เน็ตต้องพร้อมตลอดเวลาที่เราต้องการจะใช้มัน

Email พนักงานทุกคนจะต้องใช้อีเมล์ได้อย่างคล่องแคล่ว อันนี้เป็นพื้นฐานสำคัญของการสื่อสารในองค์กร ความสำคัญเทียบเท่ากับกระดาษที่เซ็นชื่อกำกับเลยทีเดียว

Skype โปรแกรมนี้ดีทั้งแชท และโทรแบบเห็นหน้าได้ แต่รู้สึกว่ามันแอบหนักเครื่องยังไงไม่รู้ เปิดมาแล้วดึงให้ช้าไปหมด (หรือคอมผมมันเริ่มเก่าแล้วหว่า 555) สะดวกเวลาประชุม online แต่เดี๋ยวนี้เราไม่ค่อยได้ใช้แล้ว เพราะทุกคนอยู่ในพื้นที่ใกล้กัน สัปดาห์นึงก็มาประชุมเจอหน้ากันครั้งนึง ไม่เหงาด้วย

Line อันนี้มาแรง ต้องใช้เลย สะดวกในการสื่อสาร จัดกลุ่มได้ง่าย ไม่หนักเครื่อง สะดวกในการพูดคุยกับลูกค้าด้วย เพราะเขาก็ใช้เหมือนกัน บางทีโปรแกรมแชทมันก็ดีกว่าโทรตรงที่ไม่ต้องกดดันรีบตอบ

Facebook Group สะดวกกับองค์กรที่ต้องการสื่อสารกับพนักงานในลักษณะ board โดยยังเปิดให้ทุกคนมีส่วนร่วมตั้งกระทู้ หรือแสดงความคิดเห็นได้ด้วย และไหนๆพนักงานทุกคนก็เล่น facebook อยู่แล้ว ก็ใช้ให้เป็นประโยชน์เลยละกันนะ ผมชอบนะ สะดวกดี อัพรูปก็ง่าย

SMS อันนี้พื้นฐานมากเลย มีไว้ใช้เวลาที่เน็ตล่ม แต่ SMS กับโทรจะยังใช้ได้อยู่นะ ไม่เชื่อลองปิดเน็ตมือถือแล้วรับส่ง sms ดู มันจะยังไปถึง สะดวกเวลาฉุกเฉิน

พวกนี้เป็นคร่าวๆสำหรับ Virtual Office Tools Gomew Style แต่ละออฟฟิศก็คงจะไม่เหมือนกัน แล้วแต่จะปรับเปลี่ยนไปตามลักษณะธุรกิจ และลักษณะนิสัยขององค์กรนั้นๆครับ
5 itong2go: February 2013 โกมิว โกแมว ทำงานกันที่บ้านนะจ๊ะ จากที่เราได้ลองใช้  Virtual Office กันมามากกว่าครึ่งปีแล้ว ได้พบปัญหาและก็ได้แก้ไขกันมาหลายอย่าง จะเห็...

Facebook Comments

Recommended Post

เฮียโก บรรยายให้น้องๆมช.ฟังเรื่องการเริ่มต้นธุรกิจทำ content ออนไลน์

 บรรยายผ่าน zoom ครับ ก็จะแห้งๆนิดนึงแต่ก็ได้เนื้อหาอีกแบบนึงอยู่นะ เปิดฟังเองอีกรอบนึงก็สนุกดี พูดตะกุกตะกักไปหน่อย